(2) การที่เล่าปี่เสาะแสวงหาผู้ร่วมอุดมการณ์เพื่อทำการใหญ่ ก็เปรียบได้กับสิ่งที่เราเรียกกัน ในสมัยนี้ว่า Recruitment แต่สิ่งน่าสังเกตก็คือ ทำไมกวนอูและเตียวหุยจึงเลือกเล่าปี่ซึ่งเป็นแค่คนทอเสื่อซ่อมรองเท้า ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร ให้เป็นนาย ในทางกลับกัน ขณะที่เล่าปี่มีอุดมการณ์อันแรงกล้าที่จะกอบกู้ชาติ และตั้งก๊ก ทำไมจึงเลือกกวนอูและเตียวหุยเป็นสมัคร พรรคพวก เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนไม่มีประสบการณ์ในการเป็นทหาร เป็นเพียงแค่พ่อค้าในหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น

Recruitment:
เราเลือกเขา เขาก็เลือกเรา การที่เล่าปี่ได้ลูกน้อง และเป็นน้องร่วมสาบานคือ กวนอูและเตียวหุย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็น การตั้งใจแสวงหาผู้ร่วมอุดมการณ์ของเล่าปี่ เพราะเล่าปี่คิดการใหญ่แต่แรกแล้ว และการที่กวนอูและเตียวหุยเลือกเล่าปี่เป็นนาย ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องของการแสวงหานายดีเช่นกัน

สามก๊ก@work เชื่อว่า การที่เล่าปี่เลือกกวนอู และเตียวหุย ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพียงพ่อค้าไม่มีประสบการณ์เป็นทหารนั้น ไม่ใช่การเลือกผู้ร่วมอุดมการณ์ส่งเดช แต่แท้ที่จริงแล้ว เล่าปี่เป็นคนช่างเลือก เล่าปี่คิดการใหญ่มานานแล้วเพราะตนมีเชื้อสายกษัตริย์ แต่กว่าจะเจอคนถูกใจอย่างกวนอูและเตียวหุยก็ อายุย่างเข้า 28 ปี แสดงว่าเล่าปี่ไม่ใช่คนที่คว้าใครได้ก็เอา เล่าปี่ใช้หลักง่ายๆ แต่ลึกซึ้งคือ ดูว่าเป็นคนดี และ มีความสามารถ

กวนอูเป็นคนดีเพราะใจดี แบ่งหมูให้คนจน แล้วขายหมูให้คนรวย ได้เงินแล้วยัง แจกจ่ายคนจนอีก ส่วนเตียวหุยก็เป็นคนดีเพราะใจกว้าง ไม่ได้โกรธกวนอูที่เอาหมูของตัวเองไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน เป็นคนตรง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ส่วนในเรื่องความสามารถ การที่กวนอูยกหินที่ปิดปากบ่อได้ แสดงว่าย่อมมีพละกำลังไม่ธรรมดา เตียวหุยใช้อุ้งมือบดถั่วเขียวให้ละเอียดได้ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่กวนอูและเตียวหุยสู้กันนั้น แสดงให้เห็น ถึงความเป็นยอดฝีมือ

ดังนั้นเล่าปี่จึงเลือกกวนอูและเตียวหุยโดยดูที่ศักยภาพที่เป็นเลิศ มีฝีมือจริง และต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม ไม่ได้มองแค่ประสบการณ์ ซึ่งสำหรับคนบางคน อาจจะเป็นเพียงประสบการณ์จอมปลอม หากคนๆ นั้นไม่ได้มีจิตใจที่เป็นเลิศ

ในทางกลับกัน การที่กวนอูและเตียวหุยเลือกเล่าปี่ ทั้งๆ ที่เล่าปี่เป็นแค่คนทอเสื่อซ่อมรองเท้า ก็เพราะว่ากวนอูและ เตียวหุย ไม่ได้มองแค่เปลือกนอก การที่เล่าปี่สามารถแยกทั้งสองออกจากการต่อสู้ ย่อมแสดงให้เห็นถึงฝีมือว่าไม่เป็นรอง คือถ้าเล่าปี่อยู่ใน สนามรบ ก็เรียกได้ว่าเป็นงาน ลูกน้องยอมรับ แต่ที่สำคัญ Vision ของเล่าปี่ที่มิได้มองแค่การสมัครเป็นทหาร แต่มองไกลถึงการตั้ง กองกำลังทหาร เป็นสิ่งที่กวนอู และเตียวหุยยอมรับนับถือ

เล่าปี่มองออกว่าสถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษ เมื่อปราบโจรโพกผ้าเหลือง เสร็จ ก๊กเล็กก๊กน้อยจะไม่ขึ้นอยู่กับใคร ซึ่งหากเล่าปี่ตั้งกองกำลังทหารได้ ก๊กของตนก็มีสิทธิ์เป็น ใหญ่ได้เหมือนกัน ซึ่งนี่เป็น vision ของผู้นำที่แม้กวนอู และเตียวหุยยังมีไม่เท่าเล่าปี่ นอกจากนั้นยังมีการสำทับด้วยเรื่อง ที่เตียวหุยเล่าเกี่ยวกับ ต้นหม่อนพันปีในหมู่บ้าน ของเล่าปี่ที่ว่าจะมีผู้มีบุญมาเกิด ซึ่งก็หมายถึงเล่าปี่นั่นเอง หมายความว่าสิ่งที่เล่าปี่คิดการใหญ่อยู่มีความเป็นไปได้ ที่จะประสบ ความสำเร็จ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมกวนอูและเตียวหุย จึงเลือกเล่าปี่ให้เป็นพี่ใหญ่ และก็พิสูจน์ในภายหลังว่า เล่าปี่นำพากวนอู และเตียวหุยไปในทิศทางที่เจริญขึ้นจริง



สามก๊ก@work เชื่อว่าในขณะที่เรากำลังเลือกเขา เขาก็กำลังตัดสินใจที่จะเลือก และไม่เลือกเราด้วย ในยุค 2000 บทบาทของ Internet จะส่งผลให้มีบริษัทให้ผู้สมัครเลือกเยอะ และขณะเดียวกันก็มีผู้สมัครให้บริษัทเลือกเยอะเช่นเดียวกัน

ดังนั้นต่างฝ่ายต่างก็ต้องรู้จักปรับปรุงตนให้เป็นที่ต้องการของอีกฝ่าย พยายามทำตัวให้ถูกเลือก อย่าคิดว่าเราเท่านั้นที่เป็นฝ่ายเลือก เขาในยุคนี้ไม่เหมือนยุคก่อนเพราะจะเป็นยุคทองของ Human Resource อย่างแท้จริง ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่วนหนึ่ง เพราะยังมีหลายบริษัทที่คิดว่าตัวเองใหญ่


1. มองแต่ตัวเองด้านเดียว โดยไม่ได้ใส่ใจในบริษัทคู่แข่งหรือบริษัทอื่นๆ ว่าเรากำลังแข่งขันกันในเรื่อง Human Resource เดี๋ยวนี้เราชนะกันที่ใครมีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีกว่ากัน เพราะคนร่วมงานถือเป็นตัวจักรสำคัญที่สุดในการทำงาน รายละเอียดปลีกย่อยอื่นก็จะเป็นผลพวงตามมาจากทรัพยากรมนุษย์ทั้งนั้น

2. มองแค่ตัวเองด้านเดียว คิดว่าตนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เลือกคนเข้าทำงานโดยลืมไปว่า Job seeker ที่เก่งๆ นั้น ย่อมมีทางเลือกว่าอยากจะไปทำบริษัทไหน โดยไม่ได้ดูแค่เป็นบริษัทใหญ่หรือเล็ก แต่ดูที่นโยบายและคุณภาพด้านทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทต่างหาก

ส่วน Job seeker ที่มีศักยภาพมาก ๆ บางคนก็มักเข้าใจผิด ๆ
1. คิดว่าตนเองเก่ง และก็ทำตัวประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้เลือกฝ่ายเดียว โดยลืมนึกไปว่าแท้ที่จริงแล้ว บริษัทที่มีคุณภาพจริง ก็มีทางเลือกเหมือนกัน เพราะบริษัทยิ่งมีคุณภาพ ก็มักมีใบสมัครที่มีคุณภาพมากตามไปด้วย

2. Job seeker บางคนมองเพียงแต่ในเรื่องของการศึกษา ว่าตนเองเรียนสูง จบ MBA จากสถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุด ของประเทศไทย ยิ่งถ้าได้เกียรตินิยมด้วยแล้ว ก็ยิ่งหลงตัวเอง ยิ่งฐานะทางบ้านและชาติตระกูลดีก็ยิ่งไปกันใหญ่ โดยลืมไปว่า ผู้สมัครอื่นๆ อีกไม่ใช่น้อยเช่นกันที่มีคุณสมบัติข้างต้น อาจจะจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เมืองนอกเสียด้วยซ้ำ

ความจริงแล้วสิ่งที่จะทำให้ผู้สมัครถูกรับเลือก คือ Attitude หรือทัศนคติต่อการมองสิ่งต่างๆ รอบตัว แรงบันดาลใจ และความเข้าใจในบทบาทของลูกน้อง เจ้านาย บริษัท และศักยภาพของผู้สมัคร ว่าจะได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป ได้แค่ไหนต่างหาก เป็นปัจจัยหลักสำคัญ



Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved.
No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system, or transmitted in any form, or by any means,
electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com