|
|
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ วีรบุรุษคือผู้สร้างโอกาสจากภาวะวิกฤต แสวงหาประกายแสงสว่างจากความมืดมิด แล้วกลับวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อประมาณปี 2532 ข้าพเจ้าได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งชื่อ บริษัทโตโต้ จำกัด อยู่เมืองนนท์ เป็นโรงงาน ผลิต น้ำดื่มยี่ห้อโตโต้ ผลิตน้ำส่งสายการบิน และส่งตามเอเย่นต่าง ๆ รอบ ๆ เมืองนนท์ เป็นบริษัทขนาดกลางมีพนักงาน 50-60 คน ข้าพเจ้าเข้าไปทำงานในตำแหน่งพนักงานบัญชี ซึ่งตอนนั้น เด็กโรงงานเรียกว่าเสมียน ทำอยู่ได้ประมาณ 5 เดือน ก็มีเรื่อง พนักงานในสำนักงานซึ่งมีผู้จัดการฝ่ายตลาด 1 คน เซลล์ 1 คน บัญชีและการเงินอีก 3 คน คนขับรถ 2 คน ถูกไล่ออกยกทีม เนื่องจากยักยอกเงินบริษัท ตอนนั้นเหลือพนักงานคือ ข้าพเจ้าคนเดียว ทำไงดี คิดจะลาออกเพราะอยู่คนเดียว จะทำงาน มากมายขนาดนั้นได้อย่างไร คุณมานิตย์ กับซ้อ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเรียกข้าพเจ้าเข้าไปคุย บอกว่าไม่ให้ออก ซ้อบอกว่าเชื่อว่าหน่อย เป็น คนซื่อสัตย์ และหน่อยอยู่ช่วยซ้อได้ ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้าปลื้มมาก ที่เจ้านายมองเห็นคุณค่าในตัวเรา ข้าพเจ้าจึงทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรับ order ลูกค้า จัดสายให้รถ จ่ายงานรถทั้งหมด 5 คัน ในช่วงเช้า รับและจ่ายเงิน พอตอนเย็นเมื่อรถเข้ามา ข้าพเจ้ามีหน้าที่เคลียเรื่องค่าใช้จ่าย รวมไปทั้งทำเงินเดือนให้คนงานด้วย งานในตอนนั้นหนักมาก แต่ถึงจะมากอย่างไร ก็ไม่มากเท่ากับปัญหาที่ข้าพเจ้าเจอในวันหนึ่ง วันนั้นรถส่งน้ำมาไม่ทัน เอเย่นโทรมาโวยวาย จะยกเลิกสัญญาถ้าไม่ได้น้ำวันนี้ จะไปให้ที่อื่นส่ง ข้าพเจ้ามอง ไปไม่เห็นใครจะช่วยได้สักคน คนขับรถก็ไม่มีอยู่ ขณะนั้นข้าพเจ้าเองเพิ่งจะพอขับรถได้ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น สุดท้ายจึงตัดสินใจไปส่งน้ำเองโดยมีเด็กคนงานติดรถไปด้วย 2 คน เพื่อบอกทางและยกน้ำ งานในวันนั้นหนักมาก เพราะ ต้องรับผิดชอบทั้งงานในบริษัท และส่งน้ำข้างนอก แต่พอกลับมา คุณมานิตย์ กับซ้อ ก็เรียกข้าพเจ้าเข้าไปคุย และขอบคุณ ที่รักษาลูกค้ารายใหญ่ สามารถแก้วิกฤตการณ์ตอนนั้นไว้ได้ ซ้อปรับเงินเดือนเพิ่มให้ 1,000 บาท และให้ข้าพเจ้าย้ายเข้ามาพัก ในสำนักงานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกทั้งได้กั้นห้องพักใหม่ให้ข้าพเจ้า แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าดีใจ คือสามารถใช้สถานการณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ ความน่าไว้ใจ และผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่เจ้านายได้
|
| รัตน์ติยา สินธุนาคิน |
 |