- สามพี่น้องสาบานตนในสวนท้อ


ราวต้นปี 2537 ข้าพเจ้าย้ายเข้ามาทำงานฝ่ายบุคคลในบริษัทแห่งหนึ่ง รับผิดชอบดูแลพนักงาน PARTTIME ให้กับฝ่ายอื่นๆ ต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับพนักงาน Part Time ทั้งหมด ตั้งแต่ การรับสมัคร การสัมภาษณ์ การอบรม ฯลฯ ประกอบกับในช่วงนั้นเป็นช่วงจะปิดภาค 2 ของสถาบันการศึกษาต่างๆ และงานแผนกต่างๆ ก็มีเข้ามาเยอะมาก แต่ละฝ่าย ก็ต้องการพนักงาน Part Time เข้ามาทำงานทั้งนั้น รวมๆ แล้วกว่า 200 คน ซึ่งก็หมายความว่าข้าพเจ้าจะต้องรับสมัคร ให้มากกว่านั้น แล้วนำมาผ่านกระบวนการคัดเลือกอีก แต่ปัญหาที่หนักหนากว่านั้นอยู่ที่ ผู้บังคับบัญชาของข้าพเจ้า ในขณะนั้น ได้ลาออก เหลือข้าพเจ้าอยู่คนเดียว งานที่หนักอยู่แล้วจึงหนักมากขึ้นเป็นสองเท่า

ข้าพเจ้าในฐานะที่เพิ่งทำเรื่อง ขอย้ายตัวเอง มาอยู่แผนกบุคคลไม่นาน ก็คิดหนักในเรื่องพนักงาน เพราะจะต้องรับผิดชอบการตั้งโต๊ะรับสมัคร ที่ต้องออกตระเวน ไปจัด บูธรับสมัครงานตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ข้าพเจ้าต้องทำเกือบทุกวันจนเวลาที่อยู่นอกบริษัทมากกว่าภายในบริษัทเสียอีก เมื่อรับสมัครนักศึกษาหลายร้อยคนแล้ว ก็ต้องสัมภาษณ์ด้วย บางวันสัมภาษณ์นักศึกษาเกือบ 50 คน จนหมดแรง บางช่วงโทร ตามพนักงานให้ฝ่ายต่างๆ จนถึง 4 ทุ่ม ทำอยู่อย่างนี้ตลอดทั้งปี 2537

แต่สุดท้ายสิ่งที่ภูมิใจคือ ราวๆ เดือนสิงหาคม ปีนั้นเอง เจ้านายใหญ่ได้เรียกข้าพเจ้าไปกล่าวชมเชยและให้กำลังใจ ทำให้ข้าพเจ้าทำงานไม่เห็นแก่ความอ่อนล้าเลย ก็ถือได้ว่าในช่วง ที่ข้าพเจ้าไม่มีผู้บังคับบัญชา ข้าพเจ้ายังสามารถปฏิบัติงานได้มีผลงานน่าพอใจ และแม้สถานการณ์จะลำบากอย่างไร ข้าพเจ้า ก็ยังสามารถยืนหยัด สร้างความสำเร็จให้เป็นที่ประจักษ์ได้ กลายเป็นวีรบุรุษของทุกๆ ฝ่ายจริงๆ

 

 
  เฉลิมศักดิ์ น้อยศรี