(1) การเปิดตัวโจโฉให้เห็นภูมิปัญญา
สามก๊กฉบับแปลใหม่ของคุณวรรณไว พัธโนทัย กล่าวไว้ว่า โจโฉเป็นคนเล่ห์เหลี่ยมมาก ปัญญาไว หมอดูทำนายไว้ว่า โจโฉ นั้นดีพอที่จะครองโลก แต่ก็ร้ายพอที่จะทำให้โลกเดือดร้อน สามก๊ก @work อยากจะชี้ให้เห็นว่า ภูมิปัญญาของโจโฉนั้นโดดเด่น และเป็นความคิด ที่วางอยู่บนพื้นฐานที่ดี จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมสุดท้ายโจโฉ สามารถสร้างก๊กให้ยิ่งใหญ ่และส่งถ่ายอำนาจไปสู่รุ่นลูก จนมีความแข็งแกร่ง กว่าก๊กอื่นในภายหลัง ในขณะที่การแก่งแย่งทางการเมือง เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อพระเจ้าเลนเต้สวรรคต

- ฝ่ายอำนาจเก่าคือพวกขันที ซึ่งครอบงำอำนาจของกษัตริย์มาตั้งแต่ต้นราชวงศ์ จนสร้างความไม่พอใจแก่ขุนนางทั้งหลายไปทั่วก็ต้องพยายามทุกวิถีทาง เพื่อรักษาอำนาจของตนไว้?

- ฝ่ายอำนาจใหม่คือขุนนางทั้งหลาย นำโดยแม่ทัพโฮจิ๋นก็ต้องการกำราบขันทีให้สิ้นซาก

ในขณะเดียวกันรัชทายาทที่จะขึ้งเถลิงอำนาจต่อก็ไม่แน่ว่าจะเป็น หองจูเปียนบุตรของโฮฮองเฮา หรือ หองจูเหียบหลานโปรดขององค์ไทเฮา ดังนั้นสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นจึงยังไม่แน่นอน ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลาย ก็จะต้องพยายามเอาชนะ ฝ่ายตรงข้ามให้ได้ดีที่สุด เหตุการณ์ต่างๆ จึงบีบคั้นทำให้ มีความกดดันทางอารมณ์ แต่ท่ามกลางการบีบคั้น และความกดดันนี้ โจโฉ ซึ่งเป็นเพียงขุนนางชั้นผู้น้อย กลับสามารถให้คำแนะนำอันแสดงถึงความคิดที่เฉียบคมที่แม้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก็คิดได้ไม่เท่าโจโฉ แม้ว่าจะถูกแม่ทัพโฮจิ๋นดูถูก ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะเงียบไปนานแล้ว แต่โจโฉก็ยังไม่ย่อท้อ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำของโจโฉอย่างเด่นชัด การวิเคราะห์คำแนะนำให้เข้าใจกระบวนการคิดของโจโฉ จึงน่าจะเป็นขั้นตอนในการศึกษาและสั่งสมภาวะผู้นำ อันจะเป็นประโยชน์ต่อไปในการดำเนินชีวิต ซึ่งสามก๊ก@work ขอเสนอดังต่อไปนี้


1.1 ขณะที่แม้ทัพโฮจิ๋นซึ่งเป็นผู้นำของฝ่ายอำนาจใหม่ คิดจะเข้าปราบขันทีโดยเร็ว เพราะคิดว่าตนเป็นแม่ทัพ มีกำลังทหารมาก โจโฉกลับเตือนแม่ทัพโฮจิ๋นไม่ให้วู่วาม.....
ขณะที่แม้ทัพโฮจิ๋น ซึ่งเป็นผู้นำของฝ่ายอำนาจใหม่คิดจะเข้าปราบขันทีโดยเร็ว เพราะคิดว่าตนเป็นแม่ทัพ มีกำลังทหารมาก โจโฉกลับเตือนแม่ทัพโฮจิ๋นไม่ให้วู่วาม เพราะขันทีสะสมอิทธิพลมาตั้งแต่ต้นราชวงศ์ สมัครพรรคพวกนั้นมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง กำจัดให้หมดสิ้นซากจะเป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่สามารถทำได้ชั่วข้ามคืนต้องรอบคอบ

จากคำเตือนนี้ สามก๊ก @work อยากจะชี้ให้เห็นว่า โจโฉเป็นผู้ที่รู้จักประเมินสถานการณ์ได้อย่างลึกซึ้ง รู้ว่าโฮจิ๋นไม่สามารถใช้วิธีจู่โจมเข้ากำจัดขันทีให้สิ้นซากในทีเดียว เพราะหากทำเช่นนั้น จะต้องมีการต่อต้านจากพรรคพวกของขันทีที่มีอยู่มากมาย ซึ่งก็อาจเกิดการต่อต้าน เป็นเรื่องที่ควบคุมยาก สาเหตุอีกประการหนึ่งที่โฮจิ๋นอยากกำจัดขันทีให้สิ้นซาก เพราะแรงแค้นที่ขันทีเป็นผู้เริ่มคิดจะมาทำร้ายตนก่อน แต่โจโฉเตือนโฮจิ๋นให้คิดให้รอบคอบ ควรมีแผนการไม่ใช่คิดจะทำก็ทำ แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งประเด็นนี้แสดงให้เห็นถึงความสุขุมของโจโฉ รู้จักแยกแยะหนักเบา ไม่ใช้อารมณ์มาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ

สามก๊ก@work ใคร่ขอแนะนำว่า การฝึกเป็นผู้ที่รู้จักประเมินสถานการณ์ได้อย่างลึกซึ้ง และการสร้างความสุขุมนั้น ต้องหมั่นทำแบบฝึกหัด คือต้องฝึกคิดอยู่อย่างสม่ำเสมอ "หมากรุก" อาจเป็นวิธีที่สามารถช่วยฝึกฝนและแก้ไขข้อบกพร่องในด้านนี้ได้บ้าง เพราะขณะเล่น เราเองจะเป็นคนเห็นความบกพร่องของวิธีคิดของตนเอง และการจะเปลี่ยนวิธีคิดได้เราต้องพยายามเปลี่ยนตัวเราให้ได้เสียก่อน แล้วจึงมีโอกาสคิดชนะคนอื่น การเล่นหมากรุกจึงอาจเป็นวิธีในการอุดช่องโหว่ในการคิด รวมไปถึงช่องโหว่ในชีวิตของท่านก็ได้


1.2 รัชทายาท หองจูเปียน เป็นบุตรของโฮฮองเฮา ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของโฮจิ๋น ....
รัชทายาท หองจูเปียน เป็นบุตรของโฮฮองเฮา ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของโฮจิ๋น ดังนั้นโจโฉจึงแนะนำแม่ทัพโฮจิ๋นให้สถาปนาหองจูเปียน ขึ้นเป็นฮ่องเต้เสียก่อน แล้วค่อยปราบขันที เพราะถึงอย่างไร อำนาจสูงสุดก็อยู่ที่องค์ฮ่องเต้ ถ้าหองจูเปียนซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของโฮจิ๋นได้เป็นฮ่องเต้ ก็เท่ากับฝ่ายโฮจิ๋นมีอำนาจอยู่ในมือ การกำจัดขันทีก็เป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าหองจูเหียบซึ่งเป็นหลานโปรดขององค์ไทเฮา ซึ่งถือหางขันทีอยู่นั้น ได้ขึ้นเสวยราช การกำจัดขันทีจะเป็นเรื่องยาก และอาจอันตรายเป็นฝ่ายถูกกำจัดเสียเองก็ได้

การแนะนำเช่นนี้แสดงว่า โจโฉเป็นคนรู้จักจัด Priority หรือ ลำดับความสำคัญก่อนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเพียงแค่เราจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังผิดไปเพียงนิดเดียว ก็อาจจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป และอาจพลิกผันชีวิตเราจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้

การฝึกให้ตัวเองกำหนด priority ที่ถูกต้อง จะต้องหมั่นตั้งสติและยอมเสียเวลาหยุดคิด จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ก่อนที่จะลงมือแก้ปัญหา เพราะคุ้มกว้าที่จะลงมือแก้ปัญหาไปแล้ว และมารู้ทีหลังว่าคนอื่นที่ยอมเสียเวลาคิดเขามีวิธีการที่เหนือชั้นกว่า เช่นเดียวกับโจโฉ ที่หากเร่งรีบและมัวแต่ห่วงเรื่องการกำจัดขันที จนลืมและปล่อยให้ขันทีชิงสถาปนา หองจูเหียบขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้เมื่อใด การลงทุนลงแรงกำจัดขันทีที่ทำมาก็ต้องสูญเปล่า และต้องกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ไปทันที



1.3. โฮจิ๋นตั้งใจจะกำจัดขันทีโดยการใช้กำลังทหาร .........
โฮจิ๋นตั้งใจจะกำจัดขันทีโดยการใช้กำลังทหาร และจะหากำลังทหารจากการเรียกตั๋งโต๊ะซึ่งเป็นแม่ทัพหัวเมืองมาช่วย แต่โจโฉแนะนำแม่ทัพโฮจิ๋นว่า หลังจากสถาปนาหองจูเปียน เป็นฮ่องเต้แล้ว การกำจัดขันทีก็ไม่ต้องใช้กำลังพล เพียงส่งให้กรมพระธรรมนูญ ใช้กฎมณเฑียรบาล กำจัดตัวหัวโจกเสีย เมื่อไม่มีหัวโจก อิทธิพลอำนาจก็จะสลายไป โจโฉไม่เห็น ด้วยที่จะต้องเรียกทหารหัวเมืองโดยเฉพาะตั๋งโต๊ะเข้ามาช่วย เพราะเกรงว่าจะเป็นภัยภายหลัง

สามก๊ก @work เห็นว่าความคิดเช่นนี้ แสดงว่า โจโฉมี Vision ในเรื่องนี้ดีมาก (เพราะต่อมาตั๋งโต๊ะก็ครองเมืองหลวงเป็นผู้สำเร็จราชการจริง) ทั้งยังรู้จักหาทางออกด้วยการแนะนำให้ใช้กฎมณเฑียรบาลเข้าจัดการ แสดงว่ารู้จักใช้กลไกระบบการปกครองให้เป็นประโยชน์ แทนที่จะต้องลงแรงมาก เป็นแบบการขี่ช้างจับตั๊กแตน

สามก๊ก@work เชื่อว่าการที่จะพัฒนา vision ของเรา ต้องพัฒนาชีวิตเราเสียก่อน เช่น ต้องรู้จักเปิดใจ เปิดความคิด ยอมรับอะไรที่เคยไม่เห็นด้วย ลองทำอะไรใหม่ ๆ การรู้จัก enjoy life ก็ช่วยให้เรามีจิตใจแจ่มใส และเมื่อจิตใจแจ่มใส ก็สามารถมองเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนขึ้น ส่วนการจะสามารถใช้ระบบให้เป็นประโยชน์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่รู้จักกลไก และเข้าใจระบบอย่างลึกซึ้ง ทั้งด้านความเป็นมา เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังระบบนั้นๆ รวมทั้งเป็นคนที่มีประสบการณ์ที่ได้จากการใช้ระบบนั้นจริง จึงจะสามารถแตกฉานทางความคิด ใช้ระบบส่งให้เกิดประโยชน์อย่างที่เราต้องการได้


1.4. เมื่อหองจูเปียนได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้และ ไทเฮาองค์ก่อนก็ถูกปลงพระชนม์ ขันทีก็กลับหันมาสวามิภักดิ์โฮฮองเฮา......
เมื่อหองจูเปียนได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ และไทเฮาองค์ก่อนก็ถูกปลงพระชนม์ ขันทีก็กลับหันมาสวามิภักดิ์โฮฮองเฮา ซึ่งขณะนั้นกลายเป็นไทเฮาองค์ใหม่ และขันทีก็หาวิธีกำจักโฮจิ๋นโดยให้พระนางโฮไทเฮารับสั่ง ให้เฝ้าโฮจิ๋นเข้าเฝ้า ในตอนนี้ ขณะที่โฮจิ๋นนอนใจ คิดว่าตนได้อำนาจเด็ดขาดแล้ว โจโฉกลับแนะนำแม่ทัพโฮจิ๋นให้สั่งให้ขันทีออกมาเสียก่อน จึงค่อยเข้าวัง เพื่อเป็นการไม่ให้ถูกลวงเข้าวังไปฆ่า

แสดงให้เห็นถึงความเป็น คนที่มีสัญชาติญาณระวังภัย อยู่ตลอดเวลา เข้าใจเงื่อนไขที่เป็นอันตรายซึ่ง เป็น คุณลักษณะที่สำคัญมากอีกประการ เพราะถ้ามีนิสัยประมาท โอกาสจะเป็นใหญ่ก็ลำบากเพราะตายเสียก่อน เหมือนเช่นโฮจิ๋นที่ไม่เชื่อโจโฉ สุดท้ายก็ถูกขันทีฆ่าตาย

สามก๊ก@work เชื่อว่า การทำงานแบบมืออาชีพ คือ การทำงานให้ได้ผลที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อผิดพลาด นั่นคือสิ่งที่แตกต่างจากมือสมัครเล่น ดังนั้น การมีแผนสองรองรับเผื่อพลาด จึงเป็นวิสัยของผู้ที่มีสัญชาติญาณระวังภัยอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นการทำงานแบบมืออาชีพ



Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved.
No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system, or transmitted in any form, or by any means,
electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com