ตอนที่ 3 ตั๊งโต๊ะครองอำนาจ

ฝ่ายนางโฮเฮาครั้นเห็นพระราชบุตรกลับมาได้ก็มีความยินดี จึงได้ตรวจตราเครื่องอานทรัพย์สิ่งของ ในท้องพระคลังก็ดีอยู่สิ้น หายไปแต่ตราหยกสำหรับว่าราชการเมือง แลตั๋งโต๊ะนั้นคุมทหารมา เที่ยวเล่นในเมืองหลวงเนือง ๆ อยู่ และพรรคพวกทั้งปวงเก็บเอาทรัพย์สิ่งสินทั้งปวงของ อาณาประชาราษฎรเป็นอันมาก ผู้ใดมิได้ว่ากล่าว แลตั๋งโต๊ะเข้าเฝ้ามิได้คำนับเสนาบดีผู้ใหญ่ เปาสิ้น เห็นดังนั้นไปปรึกษากับอ้วนเสี้ยวว่า ตั๋งโต๊ะนี้นานไปเห็นจะทำการกำเริบขึ้น เราจำจะคิดล้างมันเสีย ให้ได้ก่อน อ้วนเสี้ยวจึงว่าการแผ่นดินพึ่งสงบ ครั้นเราจะด่วนทำดังนั้นไม่ควร เปาสิ้นจึงไปหาอ้องอุ้น ปรึกษาเหมือนว่ากับอ้วนเสี้ยวนั้น อ้องอุ้นจึงว่าคิดดังนี้ก็ชอบอยู่แล้ว ของดแต่พอปรึกษากันดูก่อน เปาสิ้นคิดความมิตลอดมีความน้อยใจ ก็พาพรรคพวกออกไปอยู่ป่า

ฝ่ายตั๋งโต๊ะจึงเกลี้ยกล่อมนายทหารทั้งปวงซึ่งอยู่กับโฮจิ๋นแต่ก่อนนั้นเข้าอยู่ในอำนาจสิ้น ตั๋งโต๊ะจึง กำเริบขึ้น แล้วปรึกษากับลิยูว่า เราจะยกหองจูเปียนเสีย จะให้หองจูเหียบเสวยราชย์ ราชการแลขุนนาง ทั้งปวงก็จะเป็นสิทธิ์แก่เรา ภายหน้าไปจะคิดการสิ่งใดก็จะได้สะดวก ลิยูจึงตอบว่า ทุกวันนี้มีเจ้าก็ เหมือนหนึ่งหาไม่ เสนาบดีสำเร็จราชการก็ไม่มี แผ่นดินพึ่งสงบ ซึ่งท่านคิดทั้งนี้ข้าพเจ้าเห็นชอบด้วย ให้ท่านเร่งคิดทำเถิด แล้วว่าให้ท่านหาขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยไป ณ สวนดอกไม้ตำบลอุนเบงหุ้ย ถ้าขุนนางพร้อมแล้วจึงปรึกษาว่า จะให้ยกหองจูเปียนเสีย จะให้หองจูเหียบเสวยราชย์ ถ้าขุนนางผู้ใด ไม่ยอมก็ให้จับตัวฆ่าเสีย ท่านก็จะมีอาญาสิทธิ์สืบไป ตั๋งโต๊ะได้ฟังดังนั้นมีความยินดีนัก

อยู่มาวันหนึ่งให้แต่งโต๊ะ แล้วให้หาขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยมา แลขุนนางทั้งปวงเกรงตั๋งโต๊ะสิ้น ก็พากัน ไป ณ สวนดอกไม้นั่งล้อมจะกินโต๊ะ ตั๋งโต๊ะเห็นขุนนางพร้อมแล้วก็ถือกระบี่ออกมา จึงห้ามว่าอย่าเพ่อ เสพย์สุรา เราจะปรึกษาราชการข้อหนึ่งก่อน ขุนนางทั้งปวงก็นิ่งคอยฟังอยู่สิ้น ตั๋งโต๊ะจึงว่าทุกวันนี้ หองจูเปียนได้เสวยราชสมบัติ อุปมาดังศรีษะแลหัวใจเสนาบดีกับอาณาประชาราษฎรทั้งปวง แต่ไม่มีสง่าอาญาสิทธิ์ให้ขุนนางแลราษฎรเกรงกลัว บัดนี้เราเห็นหองจูเหียบมีสติปัญญาแหลม หลักกล้าหาญ เราจะให้ถอดหองจูเปียนเสีย จะให้หองจูเหียบเสวยราชย์ แผ่นดินจึงจะอยู่เย็นเป็นสุข ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใดขุนนางทั้งนั้นนิ่งเสียสิ้น แต่เต๊งหงวนเจ้าเมืองเต๊งจิ๋วนั้น ยืนขึ้นแล้ว ร้องว่าแก่ตั๋งโต๊ะว่า ตัวเป็นแต่ขุนนางหัวเมืองมาทำองอาจจะถอดเจ้าเสีย แลหวงจูเปียนนั้นเป็น พระราชบุตรเอก พระเจ้าเลนเต้จึงยกราชสมบัติให้ แล้วหองจูเปียนมิได้มีความผิด ตัวคิดอ่านทั้งนี้ จะเป็นขบถหรือจึงว่ากล่าวดังนี้ ตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นก็โกรธจึงร้องว่า เราปรึกษาราชการที่ดีสิ ไม่เห็นด้วย ผู้ใดซึ่งองอาจเข้ามาว่ากล่าวขัดขวางนั้น กูจะเอาชีวิตเสียบัดนี้ แล้วก็ถอดกระบี่ออกจะฆ่า เต๊งหงวนเสีย ลิยูเห็นลิโป้ยืนอยู่ข้างหลังเต๊งหงวนนั้น รูปร่างสูงใหญ่มือถือทวน ท่วงทีเห็นแข็งแรง นัก ลิยูจึงห้ามตั๋งโต๊ะไว้แล้วว่า วันนี้หาท่านทั้งปวงมากินโต๊ะจะฟังขับลำให้สบายใจสิมาวิวาท ทุ่มเถียงกันเล่า สิ้นวันแล้วหรือ ถ้าจะปรึกษากันก็งดไว้ก่อนเถิดจึงค่อยไปปรึกษา ณ ศาลาลูกขุน วันนี้เชิญกินโต๊ะเล่นดีกว่า แลขุนนางทั้งนั้นก็ห้ามเต๊งหงวน เต๊งหงวนก็ขึ้นม้าพาลิโป้กลับไป

ฝ่ายตั๋งโต๊ะนั้นจึงว่าแก่ขุนนางทั้งปวงว่า เราปรึกษาเมื่อกี้นั้นท่านทั้งนี้เห็นผิดหรือชอบ โลติดจึงตอบตั๋งโต๊ะว่า ท่านปรึกษาข้อราชการนั้นผิดนักพระเจ้าเลนเต้ผู้เป็นพระราชบิดาเห็นว่าหองจูเปียนมีสติปัญญา แล้วก็เป็นพระราชบุตรเอกจึงให้เสวยราชสมบัติ ตัวท่านเป็นขุนนางหัวเมืองมิได้แจ้งกฎหมายในพระราชฐาน จะมาถอดหองจูเปียนซึ่งมิได้มีความผิดเสียนั้นไม่ชอบตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นก็โกรธถอดกระบี่ออกจะฟัน โลติดเสีย แพ่เป๊กจึงห้ามว่าโลติดนี้เป็นขุนนางผู้ใหญ่มาแต่ก่อน น้ำใจก็สัตย์ซื่อมั่นคง ขุนนางทั้งปวงแลอาณาประชาราษฎรมีน้ำใจรักโลติดเป็นอันมาก ซึ่งท่านจะฆ่าโลติดเสียนั้น เห็นว่าราษฎรทั้งปวงจะมีความเดือดร้อนนัก แล้วอ้องอุ้นจึงว่าวันนี้เป็นหน้าเหล้าหน้าข้าวอยู่ ถ้าจะปรึกษาข้อราชการก็ให้งดไว้วันอื่นเถิด ขุนนางทั้งปวงก็ลาตั๋งโต๊ะกลับไปสิ้น

ฝ่ายลิโป้ครั้นไปถึงที่อยู่กับเต๊งหงวนแล้ว จึงถือทวนขี่ม้ากลับมาคอยฟังราชการ ณ สวนดอกไม้ แลตั๋งโต๊ะนั้นครั้นขุนนางไปสิ้นแล้ว ก็ถือกระบี่เดินออกไป ณ ประตูสวนดอกไม้ แลเห็นลิโป้ขี่มาควบไปมาอยู่ริมระเนียด จึงถามลิยูว่าทหารผู้ใด ลิยูจึงว่าให้ท่านหลบเข้ามาเสียก่อนแล้ว บอกว่า คนนี้ชื่อลิโป้เป็นบุตรเลี้ยงเต๊งหงวน มีกำลังกล้าแข็งนัก ตั๋งโต๊ะก็ถอยเข้ามา ครั้นเวลารุ่งเช้ามีผู้มาบอก ตั๋งโต๊ะว่า บัดนี้เต๊งหงวนกับลิโป้คุมทหารยกมาจะรบด้วยท่าน ตั๋งโต๊ะโกรธก็จัดแจงทหารแล้วยกออกไปตั้งรับ

ฝ่ายเต๊งหงวนกับลิโป้มายืนอยู่หน้าทหาร เห็นตั๋งโต๊ะยกมาจึงร้องว่าครั้งก่อนอ้ายเหล่าขันทีสิบคน ทำการหยาบช้า ให้ได้ความเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน จนเกิด อันตรายขึ้น บ้านเมืองพึ่งจะสงบ แลตัวเป็นแต่ขุนนางหัวเมืองยังมิได้มีความชอบประการใด มาตั้งตัวเป็นผู้ใหญ่ คิดบังอาจจะถอดหองจูเปียนเสีย จะให้แผ่นดินเกิดจลาจลเหมือนครั้งขันทีนั้นหรือ ตั๋งโต๊ะมิได้ตอบประการใด พอ ลิโป้ควบม้ารำทวนเข้ามาจะแทงเอาตั๋งโต๊ะ ตั๋งโต๊ะเห็นก็กลัวถอยหลังไปหลังทหาร เต๊งหงวนก็ขับทหารหนุนไล่ฟันขึ้นไป ตั๋งโต๊ะกับทหารก็แตกพ่ายไปทางประมาณห้าสิบเส้น จึงให้ตั้งค่ายมั่นรับไว้ แล้วตั๋งโต๊ะจึงปรึกษากับนายทหารซึ่งเป็นพรรคพวกว่า แต่เราเห็นผู้กระทำศึกมานี้ก็เป็นอันมาก ไม่มีผู้ใดเข้มแข็งกล้าหาญเหมือนลิโป้เลย ถ้าเราได้ลิโป้มาไว้เป็นทหารของเราการทั้งปวงก็จะคิดได้สะดวก
  1
ตอน 3 หน้า 1 l 2 l 3 | 4 | 5





Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved. No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system,
or transmitted in any form, or by any means, electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com