ฝ่ายโจโฉก็ตกใจเห็นจะมิสมคิด จึงคุกเข่าลงชูกระบี่ยื่นด้ามเข้าไปให้ตั๋งโต๊ะแล้วแก้ตัวว่า ซึ่งข้าพเจ้าจะ ทำร้ายท่านหามิได้ ทุกวันนี้ท่านมีคุณแก่ข้าพเจ้านัก ข้าพเจ้าจะหาสิ่งใดมาสนองคุณมิได้ มีแต่กระบี่สั้น เล่มนี้มีราคามาก เป็นของปู่ย่าตายายได้ต่อ ๆ กันมาจนถึงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงเอามาสนองคุณท่าน ตั๋งโต๊ะ ก็เชื่อมิได้สงสัยจึงรับเอากระบี่มาดูก็เห็นว่าดีจริง จึงส่งให้ลิโป้เก็บไว้แล้วตั๋งโต๊ะจึงพาโจโฉออกมาดูม้า แล้วว่าม้านี้ท่านเอาไปขี่เถิด โจโฉได้ยินดังนั้นจึงคิดว่า กูคิดว่าจะทำร้ายตั๋งโต๊ะก็ไม่สมคิด ซึ่งจะอยู่ใน เมืองหลวงต่อไปเกลือกตั๋งโต๊ะรู้ระคายจะฆ่ากูเสีย อย่าเลยกูจะขี่ม้าแล้วหนีไปหาบิดา จึงจะได้คิดการต่อไป แล้วโจโฉจึงว่าแก่ตั๋งโต๊ะว่า ซึ่งท่านให้ม้าข้าพเจ้าดังนี้พระคุณหาที่สุดไม่ แต่ข้าพเจ้าจะขอขี่ลองดูฝีเท้า ม้าก่อน ตั๋งโต๊ะจึงว่า เครื่องก็ผูกพร้อมอยู่จะขี่ลองดูก็ตามเถิด โจโฉมีความยินดีนักจึงขึ้นขี่ม้าแล้วควบไป ครั้นถึงประตูเมืองฝ่ายทิศตะวันออก จึงบอกแก่นายประตูว่า มหาอุปราชใช้เราไปเป็นการเร็ว โจโฉก็ควบม้าออกไปนอกเมืองหลวง

ฝ่ายลิโป้จึงว่าแก่ตั๋งโต๊ะว่า ซึ่งโจโฉเอากระบี่มานั้นเห็นจะทำร้ายแก่ท่าน ตั๋งโต๊ะจึงว่า ซึ่งว่านี้เราก็เห็น แคลงใจอยู่ด้วย พอลิยูเข้ามาตั๋งโต๊ะก็เล่าเนื้อความให้ลิยูฟัง ลิยูจึงว่า ข้าพเจ้าก็แคลงอยู่ขอให้คนไปดูที่บ้าน โจโฉอาศัยอยู่นั้น ถ้าพบตัวก็จะเห็นความจริงด้วย แม้ไม่พบก็เห็นว่าโจโฉคิดร้ายต่อท่านแล้วหนีไป ตั๋งโต๊ะเห็นชอบด้วยจึงให้คนไปดู ณ บ้านที่โจโฉอยู่ คนใช้กลับมาบอกตั๋งโต๊ะว่า ข้าพเจ้าไม่พบโจโฉ แต่ไปสืบได้ความว่าโจโฉควบม้าออกไปทางประตูตะวันออกบอกนายประตูว่ามหาอุปราชใช้ไปเป็นการเร็ว ลิยูจึงว่าโจโฉคิดร้ายต่อท่านเป็นมั่นคง ครั้นไม่สมคิดแล้วจึงหนีไป

ตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นก็โกรธ จึงว่าโจโฉ นี้เราเลี้ยงเป็นคนสนิทไว้เนื้อเชื่อใจ ควรหรือกลับมาทำร้าย แก่เรา มันเป็นคนหามีกตัญญูไม่ ลิยูจึงว่าซึ่ง โจโฉคิดทำการทั้งนี้ ใช่จะคิดแต่ตัวผู้เดียวหามิได้ เห็นจะมีพวกเพื่อนคบคิดกันเป็นหลายคน จึงทำการใหญ่ถึงเพียงนี้ จำจะคิดจับโจโฉมาให้ได้ แล้ว จะสืบเอาพวกเพื่อนซึ่งร่วมคิดกันฆ่าเสียจึงจะสิ้นเสี้ยนหนาม ตั๋งโต๊ะเห็นด้วยจึงให้เขียนรูปโจโฉ แล้วแต่งหนังสือไปทุกหัวเมืองว่า ผู้ใดเห็นรูปดังนี้ให้จับตัวส่งเข้ามา เราจะปูนบำเหน็จ แล้วจะให้ เลื่อนที่เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใดสมรู้ร่วมคิดคบเอาโจโฉซุ่มซ่อนไว้ จะให้ลงโทษทั้งบุตรภรรยา ถึงสิ้นชีวิต

ฝ่ายโจโฉมาถึงเมืองจงพวน ชาวด่านเห็นรูปโจโฉกับรูปซึ่งเขียนมานั้นเหมือนกัน จึงจับตัวโจโฉส่งเข้าไป ให้ตันก๋งเจ้าเมืองจงพวน ตันก๋งถามว่า ตัวชื่อโจโฉหรือ โจโฉบอกว่า ข้าพเจ้าชื่อฮ่องอูเป็นพ่อค้าเที่ยวค้า ขายดอก ตันก๋งพิศดูก็จำได้ตระหนักแล้วว่า ตัวชื่อโจโฉเป็นไฉนจึงว่าชื่อฮ่องอูเล่า ตัวนี้เจรจาไม่จริง วันนี้ค่ำแล้วเอาไปใส่คุกไว้ก่อนเถิด พรุ่งนี้จึงจะบอกส่งขึ้นไปเมืองหลวง ครั้นเวลาเที่ยงคืน ตันก๋งจึงให้ ไปเอาตัวโจโฉมา ณ ที่สงัด แล้วถามโจโฉว่า เราได้ยินกิตติศัพท์ว่ามหาอุปราชนั้นมีน้ำใจรักใคร่ ท่านอยู่ เป็นอันมาก ท่านทำประการใดให้มหาอุปราชขัดเคืองจึงเกิดเหตุหนีมาทั้งนี้ โจโฉจึงตอบว่า ท่านอุปมาดัง นกน้อย เป็นไฉนจึงจะมาล่วงรู้ความคิดพญาครุฑ ซึ่งมีหนังสือตั๋งโต๊ะมานั้น ท่านจับตัวเราได้แล้วก็ให้เร่ง ส่งขึ้นไปยังเมืองหลวงเอาความชอบเถิด อย่าล่วงถามมาถึงความคิดเราเลย ตันก๋งได้ฟังดังนั้นก็รู้อัชฌาสัย จึงขับคนทั้งปวงเสียสิ้นแล้วตอบแก่โจโฉว่า ท่านอย่าดูหมิ่นว่าเราความคิดน้อย ทุกวันนี้ที่เรามาเป็น หัวเมืองจัตวาอยู่นี้เพราะเราขัดสน แลใจนั้นจะคิดหาผู้กล้าหาญซึ่งมีสติปัญญาเป็นหลักจะได้เป็นที่ คู่คิดสืบไป โจโฉได้ยินดังนั้นก็ตอบว่า แต่ก่อนปู่แลบิดาเราเป็นขุนนางได้กินเบี้ยหวัดอยู่ ครั้งนี้บ้านเมือง เป็นจลาจลเพราะขันทีสิบคนแลตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้า ครั้นเราจะนิ่งอยู่มิคิดการก็เหมือนหนึ่งหารู้จัก บุญคุณแผ่นดินไม่ อันเราไปอยู่ด้วยตั๋งโต๊ะนี้หวังจะล้างมันเสีย ซึ่งทำไม่สมคิดทั้งนี้ก็เป็นกรรมของเรา แลวิบากของอาณาประชาราษฎรทั้งแผ่นดิน ตันก๋งจึงถามว่า ซึ่งท่านหนีตั๋งโต๊ะมานี้จะไปคิดการสิ่งใด โจโฉบอกว่า เราจะหนีไปหาบิดาเรา แล้วจะลอบแต่งเป็นหนังสือรับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไปถึงหัวเมือง ทั้งปวงให้ยกทหารมาบรรจบกันแล้วจะเข้าไปทำการจับตั๋งโต๊ะซึ่งเป็นศัตรูราชสมบัติฆ่าเสีย ตันก๋ง ได้ยินดังนั้นจึงเข้าถอดเครื่องจำโจโฉออกเสีย จึงเชิญให้ขึ้นนั่งบนเก้าอี้แล้วว่า ซึ่งท่านคิดทั้งนี้เรายินดีด้วย ราษฎรทั้งปวงจะได้อยู่เย็นเป็นสุขก็เพราะสติปัญญาท่าน โจโฉจึงถามว่าท่านนี้ชื่อใด จึงมีความยินดี ด้วยเรา ตันก๋งจึงบอกว่าเราชื่อตันก๋ง เป็นแซ่ตัน เราเห็นท่านนี้มีความสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน จึงมีความยินดี ด้วย ซึ่งที่ของเราเป็นเจ้าเมืองจงพวกอยู่นี้เราจะทิ้งเสีย จะไปทำการทำนุบำรุงแผ่นดินด้วยท่าน แล้วตันก๋ง จึงเข้าไปจัดหาทรัพย์สิ่งของซึ่งมีราคากับกระบี่ให้โจโฉถือหนึ่งเล่ม ตัวถือเล่มหนึ่ง จึงขี่ม้าคนละตัวแล้ว พากันออกจากเมืองในกลางคืนนั้น
  2
ตอน 4 หน้า 1 l 2 l 3





Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved. No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system,
or transmitted in any form, or by any means, electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com