การปฏิเสธชีจิ๋วถึง 3 ครั้งของเล่าปี่หลายคนอาจมองเป็นการเสแสร้ง ตามเหตุผลแล้วเล่าปี่ควรจะอยากได้ชีจิ๋วจนตัวสั่น เพราะเล่าปี่ยังไม่มีฐานที่มั่น การมีชีจิ๋วจึงเป็นการเริ่มต้นสะสมความเป็นปึกแผ่นอย่างจริงจัง แม้แต่กวนอู และเตียวหุยเอง ยังอดไม่ได้ที่จะหาว่าเล่าปี่เองพิรี้พิไรไม่ยอมรับ ดูเป็นการสูญเสียโอกาส และปล่อยให้โอกาสใหญ่ในชีวิตหลุดลอยไป

เหตุการณ์เช่นนี้ สามก๊ก@work เชื่อว่า มีเกิดขึ้นในชีวิตจริงของคนเราบ่อยครั้ง เราควรจะยึดหลักน้ำขึ้นให้รีบตัก หรือ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ?

เราจะสังเกตได้ว่าการปฏิเสธชีจิ๋วของลิโป้ตอนที่เล่าปี่จะมอบเมืองให้ เกิดจากการกลัว การคุกคามจากกวนอูและเตียวหุย และกลัวผู้อื่นครหาว่าลิโป้มาขออาศัยแล้วฮุบเมืองไว้ โดยแท้ที่จริง ลิโป้มีความต้องการครอบครองชีจิ๋ว แต่การปฏิเสธชีจิ๋ว ของเล่าปี่ถึง 3 ครั้งนับว่าไม่ธรรมดา เพราะแต่ละครั้งจะมีผู้สนับสนุนให้เล่าปี่รับเอาชีจิ๋วไว้ แต่เล่าปี่ ก็ยังยืนกรานปฏิเสธอยู่

สามก๊ก@work อยากจะชี้ให้เห็นว่า คนเราควรได้ในสิ่งที่ควรได้ การได้มาต้องสง่างาม อย่าคิดว่าจุดสุดท้ายคือการได้มา แต่ให้คิดว่าจุดสุดท้ายคือการได้มาอย่างสง่างาม เปรียบได้กับ ถ้าเรารักผู้หญิงสักคนหนึ่ง ก็ควรจะได้มาอย่างยินยอมพร้อมใจมากกว่าการ ไปฉุดคร่าการจะครองคู่ก็ควรจะผ่านพิธีให้มีความสง่างามเป็นต้น

สามก๊ก@work เชื่อว่าการครอบครองหรือได้มาอย่างสง่างาม เป็นศิลปของผู้ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่นับถืออย่างจริงจังของคนทั่วไป เพราะประเด็นที่น่าสนใจ คือ

1. ถ้าได้มาอย่างสง่างาม พื้นฐานบารมีของความเป็นใหญ่จะยั่งยืนกว่าการได้มาแบบผิดวิธี แบบผิดจรรยาบรรณ ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม แต่อย่างไรก็ตามการควบคุมตนเองให้ไม่ละโมบ ไม่เห็นแก่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความหนักแน่น ต้องมีสติ

2. ใครๆ ก็รู้ว่าเล่าปี่อยากได้ชีจิ๋ว แต่ถ้าต้องได้มา โดยที่ผู้อื่นจะว่าเล่าปี่ได้ภายหลัง ว่าเบื้องหลังของการที่เล่าปี่มาช่วยชีจิ๋ว ก็เพราะหวังยึดเมือง เล่าปี่ก็จะเสียคน ไม่ได้แสดงว่าเป็นคนมีคุณธรรมจริง จุดแข็งที่สุดของการเป็นนายคนของเล่าปี่ ไม่ได้อยู่ที่เล่าปี่รบเก่ง จัดการเก่ง แต่จุดแข็งของการเป็นนายคนของเล่าปี่อยู่ที่เป็นคนมีคุณธรรมมีน้ำใจ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ใครก็อยากทำงานให้เล่าปี่ ทำให้เล่าปี่มีคนดีมีฝีมือมาช่วยมากมาย แม้แต่ขงเบ้งเองก็ยังต้องยอมเล่าปี่ในเรื่องนี้

3. เล่าปี่เป็นผู้ยึดถือระเบียบประเพณีเป็นอย่างยิ่ง โตเกี๋ยมมีบุตรชายอยู่อีกถึง 2 คน ตามประเพณีแล้วบุตรจะเป็นผู้สืบสมบัติ ถ้าหากเล่าปี่ได้เมืองชีจิ๋วก็เป็นการผิดประเพณีผู้อื่นจะว่ากล่าวได้ และ ถ้าผู้อ่านย้อนคิดก็จะเห็นว่าเล่าปี่ชอบอ้างการสืบเชื้อสาย จากชานตงเชงอ๋อง เพราะเล่าปี่เชื่อว่าผู้ที่จะเป็นใหญ่ปกครองแผ่นดินต้องมีเชื้อราชวงศ์ และเล่าปี่เป็นผู้มีเชื้อราชวงศ์ จึงเชื่อมั่นในความงามสง่าของประเพณี

คนที่ทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้มาโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ไม่ได้ดูเรื่องความสง่างาม ผลก็อาจจะไม่ได้เห็นในรุ่นตนแต่อาจไปเห็นในรุ่นลูก เพราะการกระทำหนึ่งมักมีก็เป็นผลของการกระทำอีกอันหนึ่งเสมอ สิ่งที่สามก๊ก@work อยากให้ยึดไว้ก็คือ ให้มีความหนักแน่นรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อย่าเห็นแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า ให้ดูอย่างเล่าปี่ที่ต้องการชีจิ๋วเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าไม่ได้มาด้วยความชอบธรรม ก็อย่าได้เสียยังดีกว่า และถ้าดูตามเงื่อนไขแล้วเห็นว่าทำให้ยังไงก็ต้องได้ ก็ไม่ต้องใจร้อนที่จะเอามาเป็นของเราตั้งแต่วันนี้ เหมือนกับที่เล่าปี่แสดงออกมาว่า ชีจิ๋วถ้าจะเป็นของเล่าปี่ก็ต้องเป็นของเล่าปี่วันยังค่ำ ไม่จำเป็นต้องได้มาโดยทันที คนที่หนักแน่นพอมักจะสง่างามกว่า