3. สามก๊ก@work อยากจะตอกย้ำให้เห็นว่า เมื่อเราคิดการใหญ่แล้วการจะดำเนินการให้เกิดผลขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทุน

อย่างเช่น เล่าปี่ได้ทุนจากเตียวหุย ขายทรัพย์สมบัติ มาตั้งกองกำลังทหาร ซุนเซ็กต้องยอมเสียตราหยก เพื่อแลกกับกองกำลังทหาร เมื่อมีกองกำลังก็ยังต้องมีการสรรหาบุคคลากรที่จะมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการทำงาน อย่างเช่น ตอนที่เล่าปี่ recruit และสาบานเป็นพี่น้องกับกวนอู และเตียวหุยในที่สุด ส่วนซุนเซ็กนั้น recruit เอาจิวยี่และไทสูจู้มาเป็นลูกน้อง ซึ่งแน่นอนลูกน้องก็เลือกนายด้วย จึงเปรียบเสมือนนกดีก็จะรู้จักเลือกกิ่งไม้เกาะ

สามก๊ก@work อยากจะเน้นในตอนนี้ถึงเรื่องการครองใจคน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เด่นในตอนนี้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้ที่ประสพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทุกคน




ความจริงแล้วผู้ที่ประสพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ถ้าดูเบื้องหลังแล้ว ล้วนมาจากการที่มีลูกน้องที่ดี คนเราถ้าทำเองคนเดียว ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็มีกำลังจำกัด แต่ถ้าได้ลูกน้องจำนวนมากที่เก่ง เป็นคนดี และมีความจงรักภักดี ก็จะเป็นสิ่งที่ผลักดันทำให้กิจการประสพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่า และแน่นอนการที่จะมีคนดี มีความสามารถมาอยู่ด้วยมากๆ จึงต้องเป็นผู้นำที่ครองใจลูกน้องได้เป็นจำนวนมาก มีบารมีมาก่อนอำนาจ บารมีถึงแม้จะได้ผลในเชิงบวกมากกว่าอำนาจ แต่ก็ไม่ใช่สร้างกันง่ายๆ การจะมีบารมีมากน้อยจะขึ้นอยู่ที่จะครองใจคนได้ลึก และกว้างแค่ไหน การครองใจคนมักจะเกิดจากการรู้จักให้ ผู้นำที่ดีมักจะคิดถึงลูกน้องก่อนตนเอง จึงจะครองใจลูกน้องได้ อย่างคำพระสอนไว้ว่า ยิ่งให้ก็ยิ่งมีไม่รู้จักหมด ถ้าคิดแต่จะเอาจากผู้อื่นก็อาจจะไม่ได้อะไรเลยในท้ายที่สุด ผู้ร่วมสัมมนาท่านหนึ่งเล่าว่า คุณพ่อเคยถามว่าอยากจะเป็นผู้ให้หรือผู้รับ? คนส่วนใหญ่มักอยากเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผู้รับก็อาจเปรียบได้กับขอทาน เมื่อไม่มีจึงต้องบากหน้าไปขอเป็นผู้รับ การเป็นผู้ให้หมายถึงผู้ที่มีมากกว่า จึงสามารถแบ่งปันผู้อื่นได้ หลักการคิดของผู้นำจึงอยู่ที่ว่าต้องพยายามมีเพื่อจะแบ่งปันบริวาร เป็นผู้ให้จึงยิ่งใหญ่กว่าการเป็นผู้รับ ในกรณีของซุนเซ็ก recruit จิวยี่ ทั้งสองนับว่าเป็นเพื่อนและรู้จักกันมาก่อน ย่อมมองออกว่าต่างฝ่ายต่างเป็นเช่นไร ซุนเซ็กก็รู้จักจิวยี่ว่ามีฝีมือแค่ไหน ทั้งทางบุ๋นและบู้ รวมทั้งนิสัยใจคอและทัศนคติ ส่วนจิวยี่ก็ต้องนับถือซุนเซ็กในใจอยู่ก่อน ความห้าวหาญของซุนเซ็กที่ไม่แพ้ซุนเกี๋ยน ซึ่งมีฉายาว่า เสือแห่งกันตั๋ง เมื่อประกอบกับการแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องการเอาตราหยกเพื่อแลกกับกองกำลังทหาร ซึ่งจิวยี่ก็ยังคิดไม่ทันซุนเซ็กหนึ่งก้าว ทำให้จิวยี่ประทับใจมาก เมื่อซุนเซ็กแสดงเจตจำนงของการทำการใหญ่ ทำให้จิวยี่ซึ่งก็ต้องการประสพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้วเสนอตัวเองเป็นลูกน้องของซุนเซ็ก ซึ่งซุนเซ็กก็ดีใจมากเพราะได้สรรหาคนที่ดีมีความสามารถมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการดำเนินการ ซึ่งต่อมาจิวยี่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความสามารถโดดเด่น อุ้มชูบัลลังก์ให้กับก๊กของซุนเซ็ก

ส่วนการครองใจไทสูจู้ก็นับว่าเป็นการ recruit ในอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อซุนเซ็กได้ต่อสู้กับไทสูจู้ก็ใคร่มีความรู้สึกนับถือในฝีมือ และต้องการที่จะได้ตัวมาเป็นลูกน้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าซุนเซ็กใช้วิธีการที่ล้ำลึก โดยปกติแล้วผู้ที่เก่งมีฝีมือก็เปรียบเหมือนม้าดีก็ต้องพยศแรง การปราบพยศไม่ได้หมายถึงการใช้กำลัง แต่ใช้การเข้าถึงให้เกิดความนับถือมากกว่า การที่จะให้ผู้อื่นนับถือเรา เราต้องรู้จักนับถือผู้อื่นก่อน นี่เป็นกฎทั่วไป ซึ่งคนทั่วไปชอบมองข้าม การที่เราอยากให้ผู้อื่นวางใจในตัวเรา เราก็ต้องรู้จักวางใจในผู้อื่นก่อน การครองใจไทสูจู้จึงอยู่ที่การรู้จักยอมรับนับถือฝีมือโดยการเอาเสื้อที่ขาดวิ่นจากการต่อสู้มาแขวนไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า ไทสูจู้มีฝีมือเทียบได้กับตนเองอย่างไร และการยอมให้ไทสูจู้กลับไปรวบรวมทหารมาสมทบ ย่อมเป็นการซื้อใจในแง่ความเชื่อถือในตัวลูกน้อง ถ้าจะใช้ลูกน้องก็ต้องไว้ใจ ถ้าไม่ไว้ใจก็อย่าใช้ สิ่งนี้เป็นกฎง่ายๆ ที่ผู้นำทุกคนพึงมี การไว้ใจใครไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้นำทุกคนจะมีสายตาที่แหลมคม และมักจะดูคนออก จึงจะใช้คนได้ถูกต้อง

 
Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved.
No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system, or transmitted in any form, or by any means,
electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com