1. การ Presentation ของขงเบ้ง


              ในการ present งาน บ่อยครั้งที่คนทั่วไปมักไม่ได้ทำการบ้านมาอย่างเพียงพอ จับเรื่อง ได้ก็วางโครง presentation เลย แท้จริงแล้วความสำเร็จของการ present งานแต่ละชิ้น นั้นขึ้นอยู่กับข้อมูล สามก๊ก@work เชื่อว่าข้อมูลสำคัญที่สุด เพราะเราจะเดินไปในทิศทาง ที่ถูกต้องแค่ไหนอยู่ที่ข้อมูลว่าครอบคลุมและละเอียดพอหรือไม่ ถ้าเราดูหนังฝรั่งก็จะเห็นได้ว่า ก่อนที่เขาจะสู้กันในศาล เขาจะให้ความสำคัญกับการทำการบ้าน การค้นหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น ห้องสมุด internet พูดคุยกับผู้รู้ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เขาจะหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด การมี ข้อมูลยิ่งเยอะก็สามารถเป็นประโยชน์หรือใช้ประโยขน์ได้มากขึ้น อ้างอิงได้มากขึ้น การที่ได้ ข้อมูลไม่ครบ หรือข้อมูลผิดจากความจริง มีรายละเอียดไม่ดี ล้วนนำไปสู่ขั้นตอนต่อไปที่ผิด สามก๊ก@workจึงอยากชี้ให้เห็นประเด็นนี้ ว่าให้มีสติมีสำนึก ในการทำ presentation ครั้งใด ต้องทำการบ้านก่อน อย่าใจร้อนที่จะทำโดยคิดว่าตัวเองรู้เรื่องดีแล้ว ผู้ที่ทำตัวว่าไม่รู้ มักจะเป็นผู้ที่เปิดกว้างในการหาข้อมูลมากกว่า และผลที่สุดก็น่าจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่า เรามาลองถอดการ presentation ของขงเบ้งเพื่อความเข้าใจ เพื่อวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ ที่ขงเบ้งวางไว้ในการ presentation ครั้งนี้

การ PRESENT ของขงเบ้ง
INTRO ขงเบ้งใช้โคลงกลอนแสดงความอาลัย

  จิวยี่โชคร้ายสิ้นบุญ   ข้าได้ข่าวโสกาอาดูรยิ่งนัก
  ท่านจากอำลา   แม่น้ำหยุดไหล
  ท่านจากอำลา   เดือนดาวอับแสง
  ขอวิญญาณท่าน   โปรดฟังข้าสะอื้น
  ขอวิญญาณท่าน   โปรดฟังคำอาลัย

ในส่วนที่ 1.  จะเป็นการใช้รูป เป็น VITUAL AID ที่ดีในการ PRESENTATION อีกทั้งยังช่วย ให้เกิดความเข้าใจโดยใช้ภาพช่วย

การ PRESENTATION กลยุทธ์

รูปที่ 1 เป็นรูปของจิวยี่ตอนหนุ่ม บรรยายว่า
"ท่านในวัยเยาว์ คบหาซุนเซ็ก
  บุกเบิกภารกิจ แดงเดชที่ซ่ำกั่ง
  ท่านในวัยหนุ่ม นำแสงยากร
  บำราบแดนไกล สงบความวุ่นวาย"


พูดในสิ่งที่ประทับใจเป็นความจริงที่ผู้อื่น ต้องเห็นด้วย เพื่อเปิดใจซุนกวน

รูปที่ 2 เป็นรูปของจิวยี่กับเสียวเกี้ยวภรรยา จิวยี่ บรรยายว่า
"ท่านช่างงามสง่า ครองคู่เสียวเกี้ยว
  ชายปราชญ์สาวงาม ชื่อเสียงลือเลื่อง
  ใจกว้างรับฟังคำปราชญ์ กล้าแย้งสิ่งผิด
  เสมอต้นเสมอปลาย"

เปิดใจเสียวเกี้ยวด้วยการพูดถึง ชายปราชญ์ คู่สาวงาม เป็นการโดนใจ เสียวเกี้ยว อีกทั้ง ความภูมิใจในตัวสามีที่เป็นผู้มีความสามารถ ทั้งยังพาดพิงไปเปิดใจนักปราชญ์ดังที่ว่าจิวยี่ มักฟังคำของปราขญ์ทำให้ฝ่ายบู๊ต้องคล้อยตาม

รูปที่ 3 รูปโจมตีด้วยไฟ บรรยายว่า
"ท่านอยู่เฮงสัน เจียวก้าน เกลี้ยกล่อม
  แต่ท่านรักศักดิ์ศรี ปณิธานสูงส่ง
  มีมหาปัญญา รักษาแว่นแคว้น
  โจมตีด้วยไฟ ชนะศึกเซ็กเพ็ง"

ให้ credit ฝ่ายบู๊ว่า ศึกเซ็กเพ็กสำเร็จได้ด้วยจิวยี่ เป็นผู้นำซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายบู๊ย่อมยินดีแน่

รูปที่ 4 รูปจิวยี่มีคนคำนับ บรรยายว่า
"ครั้งนั้นท่านสง่างาม สมวีรบุรุษ
  ร่ำไห้อาลัยท่าน น้ำตาดุจสายเลือด
  ท่านด่วนสิ้นบุญ น่าเศร้าหนักหนา
  จิตใจภักดี ลือชาอมตะ
  ย่านวีรบุรุษ ขจรนิรันดร์"

สรุปความเป็นวีรบุรุษที่ทุกคนนับถือ แต่ต้องมาสิ้นบุญทำให้เป็นที่เศร้าโศกของแผ่นดิน
 
 

ในส่วนที่ 2. ขงเบ้งจะเริ่มดีดพิณ เป็นการเริ่มใช้ความสัมพันธ์ด้วยใจมาเกี่ยวข้อง การครวญเพลง แสดงถึงความอ่อนไหวของอารมณ์ที่ลึกซึ้งกว่าย
การ PRESENTATION กลยุทธ์

ร่ำไห้อาลัยท่าน      โศกาอาดูร
ฟ้าหม่นหมองมัว      แผ่นดินน้ำแข็งคลุม

ขงเบ้งได้สื่อถึงความโศกเศร้า ที่ตนเองมีต่อ การตายของจิวยี่ ที่เป็นการโศกเศร้าแบบสุดๆ ทำให้โลกทั้งใบของขงเบ้งต้องเปลี่ยนเป็นโลก ที่ไม่น่าอยู่

3 ทัพเสียขุนพล      น้ำตาพร่างพรู
เหนือหัวร่ำไห้      แสนเสียดายเสาหลัก

แสดงถึงความโศกเศร้าของทหาร 3 เหล่าทัพ และพระเจ้าแผ่นดินที่ต้องเสียเสาหลักไป

ข้าไร้ปัญญา      เคยขอกลยุทธ์
ช่วยต้านโจโฉ      เพื่อฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น

เป็นการยกย่องจิวยี่ว่าเก่ง ขนาดขงเบ้งยังต้อง พึ่งพิง ด้วยการให้จิวยี่ช่วยสอนกลยุทธ์ ถ้าจิวยี่ มีชีวิตอยู่ก็จะเป็นประโยชน์กับขงเบ้งมาก ในเรื่องการพัฒนาฝีมือ

ได้ท่านค้ำยัน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อ
แต่นี้คงหรือล่ม ช่างน่าวิตกนัก

เป็นการตอกย้ำว่าต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจาก จิวยี่ พอไม่มีจิวยี่ก็ใจหาย ปณิธานของขงเบ้ง ก็จะไม่สำเร็จ เป็นการแสดงว่าถ้าจิวยี่ยังมีชีวิต อยู่จะดี สำหรับขงเบ้งมากกว่า

โธ่ จิวยี่      มาพรากจากนิรันดร์
แผ่นดินเวิ้งว้าง      บ้านเมืองวุ่นวาย
ขอวิญญาณจอมทัพ      โปรดส่องใจข้า
แต่นี้แผ่นดิน      จะมีผู้ใดรู้ใจข้า

สรุปแล้วขงเบ้งจะไปคิดไม่ดีกับจิวยี่ได้อย่างไร ในเมื่อขงเบ้ง need จิวยี่ถึงขนาดนี้ และในบท สุดท้ายนี้ ที่ขงเบ้ง present เจตนาที่ตนเอง ต้องมากันตั๋ง คือ บ้านเมืองวุ่นวายจะมีใครบ้าง ที่รู้ใจขงเบ้งเหมือนจิวยี่ว่า ต้องผูกสัมพันธ์กันไว้ ก๊ก 2 ก๊กจึงจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ขงเบ้งร้องไห้คร่ำครวญและเอาหัวโขกกับโลงศพ

นางเสียวเกี้ยวทนไม่ได้ เห็นแก่ปณิธานของจิวยี่ ต้องออกมาประกาศคำสั่งเสียของสามีว่า จิวยี่ ต้องการให้เจริญสัมพันธ์ไมตรี เหตุการณ์นี้ต้อง อยู่ในการคำนวณของขงเบ้ง อยู่แล้ว เพราะนัก presentation ที่ดีต้องคาดการณ์ reaction ได้อย่างแม่นยำ

ขงเบ้ง ยังร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมยังเอาหัวทุบ ฝาโลงแบบ control ตัวเองไม่อยู่

การ control ตัวเองไม่อยู่ทำให้ทุกคนคิดว่า ขงเบ้งแสดงออกถึงจิตใจที่แท้จริงโดยไม่มีฟอร์ม ทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้นจนกระทั้งโลซกต้องออกมา ช่วยปลอบและสนิทใจที่จะมีไมตรีด้วย ทั้งนี้ แม้ซุนกวนเองก็ยังต้องเชื่อว่า แท้จริงขงเบ้งกับ จิวยี่ ไม่มีเรื่องบาดหมางใจกัน
 


              จะสังเกตได้ว่าขงเบ้งมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของจิวยี่มาก รู้จักซุนกวน รู้จักฝ่ายบุ๊น รู้จักฝ่ายบู๊ แล้วใช้ข้อมูลที่ตนเองมีอยู่ให้เป็นประโยชน์อย่างเหมาะสม การที่ขงเบ้ง present ได้ประทับใจ ก็อยู่ที่ข้อมูลเป็นใหญ่ ถ้าข้อมูลดีก็จะนำไปสู่การวิเคราะห์และบั้นปลายที่ดี การที่มีข้อมูลครบ

1. จะทำให้เราวิเคราะห์ปัญหาได้ถูก
ในที่นี้ปัญหาคือ ผู้คนที่กันตั๋งเชื่อว่าขงเบ้งทำให้จิวยี่กระอักเลือดตาย จึงเป็นเรื่องอันตราย ที่จะไปงานศพจิวยี่ และเป็นเรื่องยากที่ทั้งสองฝ่ายจะเจริญสัมพันธ์ไมตรีกันได้ ทั้งนี้การ วิเคราะห์ปัญหาสำคัญมาก สามก๊ก@work อยากอุปมาถึง การปวดหัวตัวร้อน แท้จริง อาการปวดหัวตัวร้อนไม่ใช่สาเหตุของโรคแต่เป็นอาการของโรค ถ้าหากเราคิดว่า การปวดหัว ตัวร้อนเป็นโรคเราก็จะแก้ที่อาการ คือให้กินยาแก้ปวดลดไข้ก็หายแต่ความจริงแล้วการ ปวดหัวตัวร้อนอาจมาจาก การอักเสบ เป็นหวัด หรืออาหารเป็นพิษ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเราไม่ได้รักษาที่โรคก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะฉะนั้นการกำหนดชี้ว่าปัญหาคืออะไร จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

2. ทำให้เรากำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน
เช่น ไม่ใช่แค่ต้องไปกังตั๋งเพื่อแก้ตัวแต่ต้องไปเพื่อเจริญสัมพันธ์ไมตรีด้วย

3. กำหนดยุทธศาสตร์เพราะเห็นจากปัญหาคือ….
     1. ต้อง clear ใจ เปิดใจผู้คนในกันตั๋ง
     2. ขงเบ้งเศร้าเสียใจ เพราะ จิวยี่มีความหมายต่อขงเบ้งมาก
     3. กังวลว่าปณิธานตนเองอาจไม่สำเร็จ เพราะจิวยี่ผู้รู้ใจตายไปแล้ว ซึ่งเป็นการเตือนผู้คนให้เห็นแก่ชาติต้องเจริญสัมพันธ์ไมตรีต่อกัน

4. กำหนด technique ในการ present คือ
     ก. ใช้กลอนเป็นการกล่าวสรรเสริญที่ดีกว่า
     ข. รูปภาพดึงดูดความสนใจ
     ค. เสียงพิณเป็นดนตรีครวญแสดงความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง เพราะดนตรีเป็นสื่อที่ sensitive มากกว่าคำพูด
 
Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved.
No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system, or transmitted in any form, or by any means,
electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com