ฝ่ายอ้วนเสี้ยว โจโฉจึงเกณฑ์ทหารสองกอง กองหนึ่งให้ตามจับขันทีหกคน กองหนึ่งให้ไปหา หองจูเปียน หองจูเหียบ ณ ป่านอกเมือง ฝ่ายต๋วนกุยกับเตียวเหยียงได้ยินเสียงทหาร ตามมาค้นหา เป็นอันมาก คิดกลัวว่า จะมิพ้นความตาย จึงทิ้งราชบุตรทั้งสองเสีย ต่างคนต่างก็หนีไปในเวลา เที่ยงคืน แต่เตียวเหยียงนั้นหนีบุกป่า มาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง พอพบทัพบินของเจ้าเมืองโห้หล้ำ ทหาร ทั้งปวงมิได้เห็นตัว ได้ยินแต่เสียงสาก ๆ ในพง จึงล้อมไว้ริมแม่น้ำ แล้วจุดคลใส่ปลายไม้ส่องเข้าไปจะ จับตัว เตียวเหยียงเห็นจะหนีไม่พ้นก็โจนน้ำตาย

ฝ่ายหองจูเปียน หองจูเหียบซึ่งขันทีทิ้งเสียในป่า ครั้นได้ยินเสียงพลอื้ออึงมาก็ตกใจกลัว ครั้นเวลา สามยาม น้ำค้างตกหนัก จึงปรึกษากันว่าเราจะอยู่ที่นี่มิได้ จำจะหนีไปให้พ้นภัย แล้วก็พากันบุกป่าไปใน เวลากลางคืนมืด มิได้เห็นหนทาง มิรู้ที่จะไปแห่งใดจึงเอาชายเสื้อทรงผูกกันเข้าไว้ พอเห็นหิ่งห้อยบิน นำหน้าไปเป็นหมู่ ก็เห็นทาง จึงพากันไปตามแสงหิ่งห้อย หองจูเหียบผู้น้องจึงว่าหิ่งห้อยนี้เป็นเทพดา ช่วยนำทางให้เรา เป็นมั่นคง ภายหน้าไปเห็นเราจะยังมีบุญอยู่ครั้นเวลาจะใกล้รุ่งก็มาถึงชายเขา แห่งหนึ่ง พระบาทพระราชบุตร ทั้งสองพระองค์ชอกช้ำพุพองเดินไปมิได้ เห็นกองหญ้ากองหนึ่งก็ พากันเข้าหยุดนอนอยู่ ที่นั้นมีบ้านตำบลหนึ่ง นายบ้านนั้นชื่อซุยก๊ก ในเวลา กลางคืนนั้นซุยก๊กฝันว่า เห็นพระอาทิตย์สองดวงตกอยู่ที่หลังบ้าน ครั้นเวลา รุ่งขึ้นซุยก๊กออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน เห็นรัศมี สว่างที่ตรงกองหญ้าจึงเดินเข้าไปดู เห็นพระราชบุตรทั้งสอง นอนอยู่ จึงปลุกขึ้นถามว่าท่านนี้มาแต่ แห่งใด หองจูเหียบจึงบอกว่า นั่นชื่อหองจูเปียนซึ่งเสวยราชย์ ในเมือง ลกเอี๋ยง เราเป็นน้องชื่อ ตันลิวอ๋อง เป็นเหตุเพราะขันทีสิบคนบ้านเมืองจึงเกิดจลาจลวุ่นวาย เราจึงหนีภัยมา อาศัยอยู่ที่นี้ซุยก๊ก นายบ้านได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ คุกเข่าลงกราบถวายบังคมแล้วทูลว่าข้าพเจ้าชื่อซุยก๊ก แต่ก่อนนั้นก็ได้ ทำราชการอยู่ในเมืองหลวง ครั้งพระเจ้าเลนเต้ผู้เป็นพระราชบิดาแห่งพระองค์ อ้ายขันทีสิบคน มันมาทำหยาบช้าต่าง ๆ ข้าพเจ้าจึงออกจากราชการมาทำมาหากินอยู่ที่นี่ แล้วซุยก๊กจึงเชิญเสด็จ เข้าไปบ้าน แล้วแต่งที่อยู่แลเครื่องเสวยถวาย พระราชบุตรทั้งสองก็อาศัยอยู่ ณ บ้านซุยก๊ก

ฝ่ายบินของก็ยกล่วงเข้ามา พอพบต๋วนกุยขันทีจึงจับเอาตัวมาถามว่าเกิดจลาจลครั้งนี้เพราะพวกมึง ทั้งสิบคน บัดนี้มึงพาพระราชบุตรทั้งสองไปไว้แห่งใด ต๋วนกุยจึงบอกว่าเมื่อเกิดเพลิงขึ้นใน พระราชวัง ข้าพเจ้าพาพระราชบุตรหนีมาอยู่ในป่า ครั้นได้ยินเสียงทหารอื้ออึงมา ข้าพเจ้าตกใจกลัว ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด บินของได้ฟังก็โกรธจึงให้ฆ่าต๋วนกุยเสียแล้วตัดเอาศรีษะ ผูกคอม้ามาจึง สั่งทหารทั้งปวง ให้ยกแยกกัน ไปเที่ยวหาพระราชบุตรทั้งสอง บินของก็ขี่ม้าเที่ยวค้นในป่ามาจนถึง หน้าบ้านซุยก๊ก

ฝ่ายซุยก๊กเห็นศรีษะต๋วนกุยก็วิ่งออกมาถามบินของว่า ท่านจับต๋วนกุยได้แห่งใดจึงตัดเอาศรีษะ ผูกคอม้ามา บินของจึงบอกเนื้อความแต่หลังให้ฟังสิ้นแล้วว่าข้าจะมาเที่ยวหา พระราชบุตร ทั้งสององค์ ซุยก๊กก็พา เข้าไปเฝ้าในบ้านแล้วซุยก๊กกับบินของจึงทูลพระราชบุตรทั้งสองว่า อย่างธรรมเนียมในเมืองหลวงถ้าหา เจ้าเสวยราชสมบัติแต่วันหนึ่งไม่ บ้านเมืองมักเกิดอันตราย ขอเชิญเสด็จเข้าไปเสวยราชสมบัติอยู่ดังเก่า แผ่นดินจึงจะเป็นปรกติสืบไป พระราชบุตรทั้งสององค์ เห็นชอบด้วย ซุยก๊กกับบินของก็ผูกม้าถวายสองม้า แล้วเชิญเสด็จไปครั้นมาทาง ประมาณสามร้อยเส้น พอพบอ้องอุ้นหนึ่ง อิวปิ๋วหนึ่ง ซุนแขนหนึ่ง เตี๋ยวเปงหนึ่ง เปาสุ้นหนึ่ง อ้วนเสี้ยวหนึ่ง คุมทหาร ประมาณห้าร้อย ครั้นเห็นพระราชบุตรทั้งสองมา ก็ลงจากม้าร้องไห้ เข้าไปรับเสด็จ แล้วซุยก๊กกับ บินของก็เล่าเนื้อความให้ฟัง ขุนนางทั้งหกคนแจ้งแล้ว จึงเอาศรีษะต๋วนกุยขันที ให้ม้าใช้เอาเข้าไป ประกาศแก่ราษฎรในเมืองหลวง แล้วแต่งรถรับเสด็จพระราชบุตรทั้งสอง ไปทาง ประมาณร้อยเส้น เศษพบทหารกองหนึ่งยกมาเป็นอันมากมิได้รู้ว่าเป็นทัพผู้ใด ขุนนางทั้งปวงตกใจ แต่อ้วนเสี้ยว นั้นขี่ม้าขึ้นไปหน้าทหารทั้งปวงแล้วร้องถามว่า ทัพผู้ใดยกมา ทหารมิได้ตอบประการใด แลตั๋งโต๊ะ ได้ยินก็ขับม้าเข้ามาหน้าทหาร แล้วร้องถามว่า พระราชบุตรอยู่แห่งใด มาด้วยในกองทัพนี้ หรือหาไม่ หองจูเปียนตกใจนิ่งอยู่ แต่หองจูเหียบผู้น้องจึงร้องบอกว่า ทัพผู้ใดมาถามหาหองจูเปียน ตั๋งโต๊ะ บอกว่าข้าพเจ้าชื่อตั๋งโต๊ะเป็นเจ้าเมืองซีหลงหองจูเหียบจึงว่า มานี้จะขบถหรือจะประสงค์สิ่งใด ตั๋งโต๊ะจึงว่าข้าพเจ้ามิได้เป็นขบถ จะมารับเสด็จดอก หองจูเหียบจึงว่าจะมา รับเสด็จแล้วเป็นไฉน จึงไม่ลงจากม้าเล่า ตั๋งโต๊ะได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ จึงลงจากม้าแล้วเข้ามากราบถวายบังคมหองจูเหียบ จึงว่าท่านนี้มิเสียแรง เป็นขุนนางผู้ใหญ่ใจสัตย์ซื่อคำต้นกับคำปลายต้องกัน ตั๋งโต๊ะได้ยิน ดังนั้น จึงคิดแต่ใน ใจว่า หองจูเหียบมีสติปัญญาพูดจาหลักแหลมนัก กูจะคิดอ่านยกหองจูเปียนเสีย จะให้หองจูเหียบเป็น เจ้าแผ่นดินในเมืองลกเอี๋ยง แลตั้งโต๊ะกับขุนนางทั้งปวงส่งพระราชบุตร ทั้งสองเข้าไปถึงในวัง แล้วตั๋งโต๊ะ ก็กลับออกไปตั้งทัพอยู่นอกเมือง

 

  7
ตอน2 หน้า 1 l 2 l 3 | 4 | 5 | 6 | 7 





Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved. No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system,
or transmitted in any form, or by any means, electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com