2. อุบายนางงาม

ถ้าใครไม่เคยลุ่มหลงเพศตรงข้ามอาจจะไม่เข้าใจว่าคำว่าเสน่ห์คืออะไร สำหรับคนที่มีประสบการณ์กับ ความรัก แน่นอนยอมจะเข้าใจกับสภาพการตกเป็นทาสเสน่ห์เป็นอย่างไร ความรู้สึกที่สะท้านใจ หรือเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ เพราะพบคนที่มีเสน่ห์อย่างจริงจัง เป็นอย่างไร เสน่ห์ของเพศตรงข้ามเป็นพลังดึงดูดที่รุนแรงทางธรรมชาติ ถ้าต้องเสน่ห์เพศตรงข้ามก็จะมีความรุนแรงของความรู้สึกที่อยากเข้าไปพบอยากเข้าไปคุยด้วย ความทรมานใจถ้าไม่สมหวัง ความอยากเป็นเจ้าของและทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มา เสน่ห์ทางเพศของบางคนไม่ใช่แค่อยากมอบความรัก แต่บางคนยังมีจริตที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ทำให้ตกเป็นทาสของความใคร่ได้อย่างไม่มีแรงฝืนถ้าเป็นการ ต้องเสน่ห์กันของคู่ครองก็คงเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่ใช่ก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากจะจัดการ เสน่ห์ของเพศตรงข้ามนั้นมักจะทำให้มองข้ามความเป็นจริง ผู้สัมมนาท่านหนึ่งยอมรับว่า ตกหลุมรักแฟนคนแรกนานถึง 14 ปี กว่าจะเรียนรู้และเข้าใจว่า สาระสำคัญที่สุดของการครองคู่ อยู่ที่การอยู่อย่างเข้าใจกันและเข้ากัน ได้ในแทบทุกเรื่อง ไม่ใช่ความรู้สึกรัก อารมณ์ความรักอาจเปลี่ยนได้แต่เหตุผลต่าง ๆ มักเป็นสัจธรรมที่คงอยู่




สำหรับเงื่อนไขของเสน่ห์ที่อองอุนได้วางอุบายนางงามไว้ก็คือ

ก) เตียวเสี้ยนเป็นสาววัยแรกแย้ม ถือได้ว่าสมัยนั้น ผู้หญิงแต่งงานออกเรือนอายุ 16 ถ้าจะว่าไปแล้วเป็นวัยที่เจริญพันธุ์ มีเสน่ห์เย้ายวนใจมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง สัดส่วน เนื้อสาว ผิวพรรณ จริตที่เร้าใจ ล้วนมีขีดดึงดูดใจสูงสุดที่วัยนี้

ข) เตียวเสี้ยนเป็นนางรำ เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ คือถูกฝึกมาให้รู้จักโปรยเสน่ห์ เอาอกเอาใจและยวนยั่วคนใหญ่คนโตอยู่แล้ว เรียกได้ว่าจริต
ร้อย เล่มเกวียนที่จะผูกมัดใจชาให้เกิดความสำราญและลุ่มหลงขั้นจัดอยู่ในขั้นมืออาชีพ

ค) ลิโป้เป็นบุรุษที่มีชื่อเสียง ลาภยศ และยังรูปงาม ฝีมือก็เลิศล้ำ ย่อมมีใจที่จะใฝ่หาหญิงงามมาเคียงคู่ อีกทั้งลิโป้ก็มีใจที่
รักสนุกในด้าน sex อยู่ด้วย จึงง่ายต่อการติดบ่วงสวาท

ง) ตั๋งโต๊ะเป็นผู้ที่มีอำนาจวาสนา อายุก็มากแล้ว โดยปกติคนอยู่ในวัยนี้ เสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามถือว่าโรยรา หากมีหญิงสาวมาพัวพันเอาใจก็จะง่ายต่อการติดพัน ดังเช่นคำพูดที่ว่า วัวแก่มักจะติดใจกินหญ้าอ่อน

สามก๊ก@work อยากจะเน้นให้เห็นว่า love&sex เป็นแรงขับที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของมนุษย์ มีความยิ่งใหญ่ที่ทำให้มนุษย์สืบทอดและดำรงเผ่าพันธุ์ แรงขับนี้มีความยิ่งใหญ่เหนือเหตุผลใด ๆ จนบ่อยครั้งสามารถโน้มน้าวให้เกิดพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ปกติจะไม่ทำ แต่จะทำได้เพื่อให้ได้สมปรารถนา และด้วยเหตุผลนี้ถ้า love&sex ต้องมาเกี่ยวพันกับการทำงาน จะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบรุนแรงสุด ๆ

สำหรับตอนนี้ สามก๊ก@work อยากจะเน้นเป็น 2 ประเด็นหลักคือ
1. เราควรใช้เสน่ห์ทางเพศเพื่อผลประโยชน์ในหน้าที่การงานหรือไม่
2. การรักษาความเป็น
มืออาชีพเพื่อให้รอดพ้นจากแรงดึงดูดของต่างเพศที่จะทำให้เบี่ยงเบนและ เสียจุดยืนของความเป็นมืออาชีพได้อย่างไร?




1. เราควรใช้เสน่ห์ทางเพศเพื่อผลประโยชน์ใน หน้าที่ การงานหรือไม่
สามก๊ก@work อยากจะวิเคราะห์ผ่านเรื่องราวของอุบายนางงามว่า อุบายนางงามเป็นวิธีสุดท้ายที่ใช้โค่นล้มตั๋งโต๊ะ แรกทีเดียวก็ใช้การลอบฆ่า ต่อมาก็รวมทัพ 18 หัวเมือง และท้ายสุดก็ใช้ sex เป็นการโค่นตั๋งโต๊ะ ซึ่งก็ปรากฏว่าสำเร็จโดยไม่เหนื่อยแรง คำถามคืออองอุนควรใช้วิธีหญิงงามนี้หรือไม่? การเมืองอย่างที่กล่าวไว้ในตอนที่สองของสิบขันทีว่า การเมืองนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่ว่ากันด้วยถูกผิด แต่เป็นเรื่องของอำนาจ และแพ้ชนะ ดังนั้นการที่อองอุนทำไปในเชิงการเมือง ถ้าประสบความสำเร็จก็ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าได้อ่านตอนตั๋งโต๊ะครองเมืองก็จะเข้าใจแนวความคิดที่ว่า วิธีการได้มา ก็มักจะเป็นเหตุให้เราต้องเสียไป

ในกรณีนี้ อองอุนใช้วิธีที่ถ้าจะว่าไปแล้วเป็นวิธีสกปรก เป็นวิธีการที่คู่ต่อสู้ถึงจะแพ้ก็ไม่ยอมรับด้วยใจ เป็นวิธีการที่เอาความรักที่เป็นหลักยึดเหนี่ยวของมนุษย์มาย่ำยี จึงพอจะสรุปได้ว่าเป็นวิธีการที่ผิดหรือไม่สมควร การทำผิดเพื่อสิ่งที่ถูก ยังไงก็นับให้ถูกไปหมดไม่ได้ ผู้ที่เก่งจริงจึงจะใช้วิธีที่ถูกที่สมควรเพื่อสิ่งที่ถูก ผลที่ได้ก็จะสะอาดหมดจดกว่า จะสังเกตได้ว่าผู้ที่ใช้วิธีนี้ ถึงแม้จะชนะก็ไม่มีคนยกย่อง และการใช้วิธีที่ต่ำทรามก็รังแต่จะทำให้ผู้ใช้เสื่อมลง เพราะไม่คิดจะใช้วิธีที่ถูกต้อง หรือวิธีที่ดีกว่านี้ ก็เลยไม่ได้พัฒนาที่ตัวเอง แต่ไปพัฒนาการใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะ จะสังเกตได้ว่า ภายหลังเอง อองอุนก็ต้องพ่ายแพ้เพราะรู้จักแต่ใช้วิธีอุบายนางงาม แต่แท้จริงแล้วไม่แข็งแกร่งในด้านการบริหาร การจัดการ หรือไม่มีกำลังทหารที่เข้มแข็งที่จะรักษาชัยชนะของตนเองได้ ส่วนเตียวเสี้ยนเมื่อเอา sex เอาความรักมาย่ำยี สังคมจะยอมรับได้อย่างไร การทำสิ่งที่ผิดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องมีส่วนผิดอยู่ดี จะทนอยู่กับความไม่ถูกต้องแบบไม่มีเกียรติไม่มีศักดิ์ศรีได้อย่างไร ชีวิตจะมีความสุขแบบหายใจได้เต็มปอดสักแค่ไหน

สามก๊ก@work เชื่อว่า แม้ใจปัจจุบันที่มี sex เสรี ก็ไม่ควรใช้เสน่ห์ทางเพศเพื่อผลประโยชน์ในหน้าที่การงาน เพราะไม่ใช่เป็นวิธีการของมืออาชีพที่มีเกียรติ การไม่ควรใช้เสน่ห์ทางเพศในกรณีนี้ หมายถึง การหลอกลวง ยั่วยวน หรือใช้เป็นเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ของหน้าที่การงาน ยกเว้นการรู้จักดูแลตัวเองให้ดูดีมีรูปเป็นทรัพย์ มีเสน่ห์ทั่วไปกับคนทั่วไปที่ได้พบเห็นได้พูดคุย แต่ถ้าก้าวเข้าไปลึกล้ำถึงขั้นยั่วยวน ก็จะเป็นการเกินงาม สามก๊ก@work อยากจะสรุปว่าไม่ควรใช้เสน่ห์ทางเพศเป็นเครื่องมือในการไต่เต้าสู่ความสำเร็จ

1. การหลอกลวงไม่จริงใจเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีไม่มั่นคง จงปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนอย่างที่ อยากให้คนอื่นปฏิบัติกับเรา การทำให้ลุ่มหลงในรักนั้นเป็นสิ่งซึ่งผู้เล่ห์กลนั้นเจ็บปวดมาก การสร้างพื้น ฐานที่ดีกับชีวิตย่อมนำเราไปสู่ชีวิตที่ดีมั่นคงกว่า
2. ถ้าไม่ได้ด้วยความสามารถก็จะสูญเสียไปโดยง่าย
3. ได้มาด้วยความสามารถ จะมีความเที่ยงแท้มากกว่า





2. การรักษาความเป็นมืออาชีพเพื่อให้รอดพ้นจากแรงดึงดูดของต่างเพศ ที่จะทำให้เบี่ยงเบน และเสียจุดยืนของความเป็นมีอาชีพได้อย่างไร?

ในสมัยนี้เรามี sex ที่เสรีขึ้น
พรหมจรรย์ไม่ใช่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ การดำเนินความสัมพันธ์ จนถึงขั้นมี sex ด้วยกัน อาจเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นของสังคมนี้ ทำให้ง่ายต่อการเบี่ยงเบนและเสียจุดยืนของความเป็น มืออาชีพ คำพูดที่ว่า วีรบุรุษยากที่จะผ่านด่านหญิงงาม ก็ยังคงเป็นเรื่องจริงในทุกยุคทุกสมัย และสมัยนี้ก็คงต้องเพิ่มด้วยว่า หญิงงามก็ใช่ว่าง่ายที่จะผ่านด่านสุภาพบุรุษ

การไม่เสียจุดยืนจากเสน่ห์ทางเพศโดยยังรักษาความเป็น
มืออาชีพได้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ทุกวันเราต้องพบต้องทำงานร่วมกับเพศตรงข้ามมีโอกาสเข้าไปพัวพันเรื่องนี้ ได้กันทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับหัวหน้าหรือผู้นำคนที่อยู่ในระดับผู้นำจะเป็นผู้ที่มีเสน่ห์ต่อ เพศตรงข้าม และท้าทายให้เข้าใกล้ ยกตัวอย่าง เช่น ประธานาธิบดีคลินตัน ของอเมริกา ซึ่งมีหญิงเป็นจำนวนมากที่ยอมรับอยากมี sex กับประธานาธิบดี ผู้หญิงเหล่านั้นอาจไม่ใช่อยากแต่งงานกับคลินตัน แต่อยากมี sex กับคลินตันด้วยเท่านั้น เป็นเรื่องที่ผู้หญิงรู้ว่าเท่าเทียมกับชาย ซึ่งในกรณีชู้สาวของประธานาธิบดีคลินตัน กับ ลูวินสกี้ ก็เป็นกรณีตัวอย่างหนึ่ง ที่ต่างฝ่ายต่างมีเสน่ห์ทางเพศต่อกัน จนถึงขั้นที่มี sex ด้วยกัน เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นได้เฉพาะกับระดับประเทศ แต่ สามก๊ก@work เชื่อว่าเกิดขึ้นได้กับผู้บริหารได้ทั่วโลก และมีกรณีมากมาย ความท้าทายความเร้าใจ จินตนาการต่างๆ ไม่เฉพาะแต่เพศใดเพศหนึ่งที่ควรระวัง ปัจจุบันเองเพศหญิงก็อาจต้องระวังที่จะเสียจุดยืนด้วย เพราะสังคมไม่ได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายหญิงแสดงออกหรือมีที่ระบายอย่างพวกผู้ชาย เช่น การใช้บริการจาก โสเภณี เพราะฉะนั้นความเก็บกดและความกดดันที่อยู่ภายในจิตใจของฝ่ายหญิง และอาจเป็นตัวที่ถูกกระตุ้นและเร่งเร้าได้ง่าย

สามก๊ก@work ก็ยังเชื่อว่า เงื่อนไขทางธรรมชาติในแบบอุบายนางงามก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เช่น
- วัยของเพศตรงข้าม ถ้าเพศตรงข้ามอยู่ใน วัยหนุ่ม สาว ก็จะมีพลังเร้าใจ มีเสน่ห์ทาง ร่างกาย จริต และพฤติกรรมที่สนุกสนานเข้าว่า ทำให้เป็นสุขเมื่อเข้าใกล้ นับว่าเป็นวัยอันตรายที่เป็นเงื่อนไข ให้เบี่ยงเบนจาก ความเป็นมืออาชีพได้
- รูปร่าง หมายถึง ผิวพรรณ สัดส่วน ก็นับเป็น เสน่ห์ทางธรรมชาติที่เป็นพลังดึงดูดให้ ลุ่มหลง ถึงขั้นไม่เป็นตัวของตัวเอง
- การเอาอกเอาใจ การอ้อนการฉอเลาะ ก็นับเป็นอาวุธอันตรายที่คนเหี้ยมโหดแบบตั๋งโต๊ะเอง ก็ไม่รอดจากกระบวนท่านี้
- ความสุภาพความมีอารมณ์ขัน ซึ่งหลายคนมักจะมองข้าม แต่แท้จริงแล้วก็เป็นเสน่ห์ตัวฉกาจ ที่ทำให้มืออาชีพต้องเสียจุดยืน
- sex ก็เป็นเสน่ห์ของรสชาติที่ได้จากการ สัมผัส ความเร้าใจและความสุขนั้น อาจกลาย เป็น สิ่งเสพย์ติดขนาดรุนแรงที่ต้องเฝ้าโหยหา และมักจะเป็นสิ่งรุนแรงที่ทำให้เสียจุดยืนของมืออาชีพ
l เพราะแรงขับอย่างยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ บางคนเรียกว่าหน้ามืดตามัว และมักจะถึงขั้นอยู่ภายใต้กระโปรงหญิงที่ผู้ชายถูกดูถูกศักดิ์ศรี




จะเห็นได้ว่าสิ่งที่สามก๊ก@work ยกตัวอย่าง ล้วน เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว การมีสติอย่างน้อยก็จะช่วยเรา ได้ระดับหนึ่ง

1. มี
มืออาชีพหลายคนที่พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้น เป็นการไม่กล้าที่จะมีเลขา สาวสวย ทุกครั้งที่เลือกเลขาจะต้องเลือกแบบที่ไม่ทำให้จิตใจหวั่นไหวเป็นอันดับแรก มืออาชีพ บางคนเลี่ยงที่จะไม่กินข้าวเที่ยงกับลูกน้องสาวสวย หรือที่ประทับใจคน หรือเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานที่มีเสน่ห์ เพราะอาจทำให้จิตใจหวั่นไหว สรุปแล้ว คือ หลีกเลี่ยงเพราะกลัวใจตัวเอง

2. อย่างไรก็ตาม มืออาชีพบางกลุ่มก็หลีกเลี่ยงเพราะกลัวคำนินทาลับหลัง ไม่กล้าไปดูหนังกินข้าว กับเพื่อนต่างเพศตอนกลางคืน เพราะกลัวคนอื่นเข้าใจผิดและเสียความ
เป็นมืออาชีพ

3. บางคนไม่หลีกเลี่ยงแต่ก็ไม่ล้ำเส้น อาศัยความอดทนอดกลั้น แบบพระถังซัมจั๋ง ที่ไม่ร้ายกับปีศาจ แต่ก็ไม่เคยหลงไปกับการยั่วยวน คนกลุ่มนี้ก็อาจเสียจุดยืนได้ เพราะไม่ใช่เป็นพระถังซัมจั๋งจริง จึงในที่สุด บ่อยครั้งจะล้ำเส้นเข้าไปแล้วแก้ไม่ได้

4. บางคนเลือกที่จะ
สนุกกับโอกาสทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต ล้ำเส้นบ้าง โดยการแยกแยะชีวิต ส่วนตัวกับชีวิตการงาน อย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่น่ากลัวสำพวกที่ใช้เสน่ห์ทางเพศ มาเอาเปรียบ เพราะกลุ่มนี้จะรับสิ่งที่เข้ามาทั้งหมดอย่างสนุก แต่อย่างไรก็ต้องให้ทำเป็น สิทธิพิเศษสำหรับคู่ตนเอง แล้วก็อย่าหวังเลยที่จะได้ เพราะกลุ่มนี้แยกแยะออกว่า สิ่งไหนควร และไม่ควร ขอยกตัวอย่างเรื่องคลินตันอีกครั้ง เพราะเป็นเรื่องครึกโครมมาก เป็นที่ติดตาม ข่าวไม่เฉพาะคนที่อเมริกา แต่เป็นเรื่องที่คนทั่วโลกจับตามอง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทุกแห่งตามบริษัทต่างๆ ทั่วไป คนจึงสนใจว่าจะลงเอยแบบไหน อย่างไรก็ตามถ้าท่านเป็นคลินตัน เองท่านจะแน่ใจซักแค่ไหนว่าจะไม่ยุ่งกับลูวินสกี้อย่างที่บอกถ้าท่านไม่ได้เป็นผู้ต้องเสน่ห์เองก็จะไม่เข้าใจว่าความเย้ายวนในจิตใต้สำนึกนั้น ขนาดไหน ก็อย่างที่บอกว่า sex เป็นแรงขับทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ไม่สามารถพูดกันด้วย เหตุผลและถึงแมคลินตันจะเข้าไปพัวพันเรื่อง sex แต่ในที่สุดคลินตันก็ยังได้เป็นประธานาธิบดีต่อไป โดยที่ทุกคนก็ยังเห็นความเป็นมืออาชีพของเขาอยู่ ขนาดอเมริกา ยอมรับในเรื่องนี้ได้ถึงแม้เรื่องจะแดงก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องชี้คุณค่าทางสังคมอย่างเด่นชัดว่า ยอมรับได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่คลินตัน อาจผิดก็คือไปยุ่งกับคนผิดคน คนที่ปากโป้งซึ่งก็อันตราย มาก ทำให้กระทบกระเทือนชีวิตครอบครัวทั้งลูก เมีย อย่างเรียกว่าแทบเอาตัวไม่รอด ผลที่สุด แทนที่จะเก็บเป็นความทรงจำที่ดีของทั้งคลินตัน และ ลูวินสกี้ แต่ก็กลายเป็นฝันร้ายของทุกคน

สามก๊ก@work เชื่อว่า กลุ่มนี้อาจไม่มีปัญหาเรื่องการเสียจุดยืนในความเป็น
มืออาชีพ แต่ชีวิตส่วนตัวที่ล่ำสันต่างหาก จะประคองอยู่หรือเปล่า ความเป็นมืออาชีพมีกฎเกณฑ์แน่นอนที่ให้ยึด แต่ชีวิตส่วนตัวเป็นเรื่องของจิตใจที่อาจไม่มีเหตุผล ตรงนี้น่าเป็นห่วงมากกว่า ; กลุ่มที่ 1 และ 2 อาจพลาดประสบการณ์ซุกซน ที่ต่อเติมสีสันให้กับชีวิต แต่ก็มีความมั่นคงในชีวิตของมืออาชีพและชีวิตครอบครัวกว่า กลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 4 อาจมีประสบการณ์ที่ท้าทายความซุกซนของตนเอง มีสีสันในชีวิตมากมาย ถ้าประคองได้ดีก็ถือว่าใช้ชีวิตแบบสุด ๆ แต่ส่วนใหญ่ที่ประคองไม่ได้ก็สร้างปัญหาให้ปวดหัวแบบไม่คุ้ม ใครจะเลือกอย่างไรก็สุดแล้วแต่มืออาชีพแต่ละคน

Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved.
No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system, or transmitted in any form, or by any means,
electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com