ตอนที่ 8.3 เล่าปี่ครองเมืองชีจิ๋ว
ฝ่ายลิฉุยจึงให้ลิเซียมผู้เป็นหลานคุมทหารไปล้อมวังไว้ ลิเซียมจึงให้กาเซี่ยงเอารถไปสองรถ เชิญพระเจ้าเหี้ยนเต้ขึ้นรถหนึ่ง ให้นางฮกเฮาซึ่งเป็นพระมเหสีขึ้นรถหนึ่ง แล้วต้อนขันทีแลนักสนมทั้งปวงกับรถนั้นออกประตูท้ายสนม ขณะนั้นลิฉุย กุยกีซึ่งรบกันอยู่ต่างคนต่างเลิกทัพกันไป กุยกีนั้นก็มาพบลิเซียมกับกาเซี่ยงคุมทหารพาเสด็จพระเจ้าเหี้ยนเต้แลพระสนมทั้งปวงออกมาจามพระราชวัง กุยกีจึงให้ทหารยิงเกาทัณฑ์ระดมไปถูกทหารลิซียมแลนักสนมล้มตายเป็นอันมาก
ฝ่ายลิฉุยรู้ดังนั้นก็ยกทหารรีบตีวกหลังทหารกุยกีมา กุยกีต้านทานมิได้ก็พาทหารทั้งปวงบากหนีออกไป ลิฉุยจึงพาพระเจ้าเหี้ยนเต้กับพระสนมไปตั้งซุ่มอยู่นอกวัง
ฝ่ายกุยกียกทหารกลับเข้าไปในวัง เก็บเอาทรัพย์สินของในท้องพระคลัง แลจับนักสนมซึ่งซุ่มซ่อนอยู่นั้นมาไว้ แล้วให้เอาเพลิงจุดเผาวังเสียสิ้นครั้นแล้วเวลารุ่งขึ้นเช้า กุยกีรู้ว่าลิฉุยพาพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปตั้งชุมนุมอยู่นอกพระราชวัง จึงยกทหารมาถึงหน้าทัพลิฉุย จะรบชิงเอาพระเหี้ยนเต้
ลิฉุยก็ยกทหารออกมารบด้วยกุยกี กุยกีต้านทานมิได้ก็พาทหารถอยไปตั้งชุมนุมอยู่ ลิฉุยเห็นกุยกีถอยไป จึงให้เชิญเสด็จพระเหี้ยนเต้กับขันทีแลพระสนมไปไว้ ณ เมืองซึ่งตั๋งโต๊ะสร้าง แล้วกำชับลิเซียมให้ดูแลอย่าให้ผู้ใดเอาข้าวปลาอาหารให้ขันทีแลสนมทั้งนั้นกินเป้นอันขาดทีเดียว พระเจ้าเหี้ยนเต้เห็นข้าไททั้งปวงอดอยากก็มีความสงสาร จึงให้ขันทีขอข้าวกับเนื้อโคแก่ลิฉุย ลิฉุยโกรธว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ได้เสวยอยู่ทุกเวลา เป็นไฉนจึงให้มาขออาหาร จะเอาไปให้ผู้ใดกินเล่าก็มิได้ขัด ลิฉุยจึงเอาข้าวซึ่งผุราเนื้อโคเน่าให้ขันทีไปถวายพระเจ้าเหี้ยนเต้เห็นดังนั้นก็ทรงโกรธ แล้วตรัสว่าอ้ายศัตรูมันดูหมิ่นหยาบช้าแก่กู
พอเอียวปิวลอบเข้าไปเฝ้าจึงกราบทูลห้ามว่า ลิฉุยนั้นมีใจหยาบช้าครั้งนี้พระองค์อยู่ใน บังคับมัน จงอดพระทัยเอาเถิด พระเจ้าเหี้ยนเต้มิได้ตอบประการใด ก็ทรงพระกันแสงจนฉลองพระองค์นั้นชุ่มไปด้วยน้ำพระเนตร
ในขณะนั้นมีคนลอบเอาเนื้อความกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ว่า มีทัพยกมาจะรับเสด็จ พระเจ้าเหี้ยนเต้ให้ขันทีลอบออกไปฟังดูว่ากุยกียกมาพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ทรงพระดำริว่า กุยกีเห็นจะมาทำอันตรายแก่เราด้วย แล้วก็ยิ่งทรงพระกันแสงไป พอได้ยินเสียงนอกกำแพงโห่ร้องอื้ออึงขึ้น ลิฉุยรู้ว่ากุยกียกมาก็จัดแจงทหารออกไป จึงเอาแส้ม้าชี้หน้ากุยกีแล้วร้องด่าว่า ตัวมึงเป็นศัตรูราชสมบัติ กูจึงจะคิดฆ่ามึงเสีย ลิฉุยจึงว่า กูเชิญเสด็จเจ้าเหี้ยนเต้ออกมารักษาไว้ เหตุไฉนมึงจึงว่าเป็นศัตรูราชสมบัติ กุยกีจึงตอบว่า มึงให้หลานเข้าไปหักหาญพาเสด็จออกมาหวังจะทำอันตรายพระองค์เสีย ครั้นกูยกตามมามึงแก้ว่าพามารักษาไว้ ลิฉุยโกรธจึงว่า อย่าให้ร้อนถึงทหารทั้งปวงเลย แต่มึงกับกูมาสู้กัน ถ้ามึงชนะก็จงพาเสด็จไปเถิด แล้วลิฉุยก็ขับม้าออกไปรบกับกุยกีได้สิบเพลงยังมิทันแพ้ชนะกัน
ฝ่ายเอียวปิวรู้ว่าวุ่นวายใหญ่หลวงผิดกับซึ่งคิดไว้ดังนั้น จึงพาขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยประมาณหกสินคนหนีไป เห็นลิฉุย กุยกีรบกันอยู่ เอียวปิวจึงร้องห้ามว่า ท่านทั้งสองอย่ารบกัน ข้าพเจ้ากับขุนนางทั้งปวงมาห้าม ให้ท่านทั้งสองปรกติกันสืบไป ลิฉุย กุยกีได้ฟังดังนั้น ต่างคนต่างก็พาทหารกลับไป เอียวปิวพาขุนนางทั้งปวงไปตามห้ามกุยกี กุยกีเห็นขุนนางทั้งปวง ก็สั่งทหารให้เอาตัวขุนนางเหล่านี้ไปจำคุกไว้ ขุนนางทั้งปวงจึงตอบว่าเราหาผิดมิได้เรามาหวังจะห้ามมิให้รบกัน เป็นไฉนท่านจึงจะให้เอาไปใส่คุกเสีย กุยกีจึงตอบว่า ลิฉุยนั้นพาเสด็จเหี้ยนเต้แลพระสนมไปขังไว้ เราจึงจะให้ท่านทั้งปวงไปจำไว้บ้าง
เอียวปิวจึงตอบว่า ฝ่ายลิฉุยจับพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปไว้ ฝ่ายท่านให้จับขุนนางไปจำไว้ฉะนี้ ท่านคิดประการใดหรือ กุยกีได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงชักกระบี่ออกจะฟันเอียวปิว พอเอียวปิวซึ่งทหารกุยกีได้ห้ามไว้ กุยกีจึงให้ปล่อยเอียวปิวกับจูฮีเสีย ให้เอาขุนนางทั้งปวงจำไว้
เอียวปิวกัยจูฮีเดินมากลางทาง เอียวปิวจึงปรึกษากัยจูฮีว่า เราเป็นขุนนาง พระมหากษัตริย์ ชุบเลี้ยงอยู่ในแผ่นดิน ครั้งนี้พระเจ้าเหี้ยนเต้ทรงพระทุกข์ทรมานอยู่ เราจะละเสียเป็นคนหากตัญญูไม่ จำเราจะคิดทำนุบำรุงแผ่นดิน ให้พระองค์อยู่เย็นเป็นสุขจึงจะควร แล้วกอดคอกันร้อยไห้จนล้มลงในที่นั้น ครั้นฟื้นขึ้นต่างคนต่างกลับบ้านไป จูฮีนั้นเป็นไข้ใจตาย |