|
|
|
ฝ่ายเต๊งหงวนครั้นเห็นลิโป้เข้ามาจึงถามว่า ลูกเอ๋ยเข้ามาทำไม ลิโป้จึงร้องตอบว่า
ตัวกูก็เป็นชาย มีฝีมือลือชาปรากฎ ซึ่งมึงจะมาเรียกกูว่าลูกนั้นไม่สมควร
เต๊งหงวนได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงตอบว่า เป็นไฉนเจ้าจึงคิดกลับใจเป็นดังนี้
ลิโป้มิได้ตอบประการใด ชักกระบี่ออกวิ่งเข้าฟันเอาเต้งหงวนตาย ตัดเอาศรีษะหิ้วไว้
แล้วร้องประกาศแก่ทหารทั้งปวงว่า เต้งหงวนนี้มิได้มีใจสัตย์ซื่อ ทำการหยาบช้า
บัดนี้เราฆ่าตายเสียแล้ว ทหารทั้งปวงใครจะยอมอยู่ด้วยก็ตามหรือผู้ใดจะกลับไปบ้านเมืองก็ไป
แลทหารทั้งปวงได้ฟังลิโป้ร้องประกาศดังนั้นซึ่งมีใจชังลิโป้นั้นก็แตกตื่นไปประมาณกึ่งหนึ่ง
แต่ซึ่งมีใจรักนั้นก็เข้าอยู่กับลิโป้ประมาณกึ่งหนึ่ง ครั้นเวลารุ่งเช้าลิโป้จึงขึ้นม้า
หิ้วเอาศรีษะเต๊งหงวนไปหาลิซก ณ ค่ายตั๋งโต๊ะ ลิซกครั้นเห็นลิโป้หิ้วเอาศรีษะเต๊งหงวนมาก็ดีใจ
จึงพาลิโป้ไปหาตั๋งโต๊ะ
ฝ่ายตั๋งโต๊ะเห็นลิซกพาลิโป้ซึ่งหิ้วศรีษะเต๊งหงวนเข้ามาก็มีความยินดีเดินออกมารับลิโป้แล้วว่า
ตัวเรานี้อุปมาเหมือนทำนาตกกล้าลงแล้วฝนแล้วกล้านั้นใบแดงไป ซึ่งท่านมาหาเรา
บัดนี้เหมือน ฝนตกลงห่าใหญ่ น้ำท่วมเลี้ยงต้นกล้าชุ่มชื่นขึ้น ลิโป้เห็นตั๋งโต๊ะคุกเข่าลงคำนับก็ตกใจ
ลิโป้เข้าอุ้มเอา ตั๋งโต๊ะขึ้นนั่งบนเก้าอี้ แล้วกราบคำนับ จึงว่าข้าพเจ้านี้มีใจภักดีมาจะทำราชการด้วยท่าน
ซึ่งท่าน มีใจเมตตาข้าพเจ้านั้นก็เห็นประจักษ์สิ้น ข้าพเจ้าจะขอเอาท่านเป็นบิดากว่าจะสิ้นชีวิต
ตั๋งโต๊ะได้ฟัง มีความยินดียิ่งนัก จึงเอาเสื้ออย่างดีกับเกราะทองคำมาให้ลิโป้
ตั้งแต่ตั๋งโต๊ะได้ลิโป้มาไว้เป็นกำลัง จะคิดอ่านราชการสิ่งใดมีใจกำเริบหยาบช้าขึ้นกว่าแต่ก่อน
ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยแลทหารทั้งปวงในเมืองหลวงก็อยู่ในบังคับบัญชาตั๋งโต๊ะสิ้น
แล้วให้ ตั๋งบุ่นผู้น้องเป็นนายทหารซ้าย ให้ลิโป้ซึ่งเป็นบุตรเลี้ยงนั้นเป็นนายทหารขวา
ตั๋งโต๊ะก็ยกเข้ามา ตั้งอยู่ในเมือง
ครั้นอยู่มาลิยูจึงว่าแก่ตั๋งโต๊ะว่า ราชการในเมืองหลวงทุกวันนี้ก็สิทธิ์ขาดอยู่แก่ท่านสิ้น
ซึ่งจะคิด ประการใดนั้นขอให้เร่งคิดเสียเถิด ตั๋งโต๊ะเห็นชอบด้วย ครั้นเวลาเช้าตั๋งโต๊ะจึงให้ลิโป้คุมทหาร
พันเศษให้เข้าไปล้อมวงอยุ่ในพระราชวัง แล้วตั๋งโต๊ะเข้าไปในที่เสด็จออก
จึงสั่งให้แต่งโต๊ะหา ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยมากินโต๊ะในที่เฝ้า แล้วตั๋งโต๊ะถือกระบี่เข้าไปร้องประกาศในที่ชุมนุมขุนนาง
ทั้งปวงว่า หองจูเปียนนั้นหาสติปัญญามิได้ จะให้ถอดเสีย เราจะให้ตั้งหองจูเหียบซึ่งมีสติปัญญา
หลักแหลมขึ้นเสวยราชสมบัติ ถ้าผู้ใดมิลงใจพร้อมด้วยเราจะฆ่าเสีย ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย
ทั้งปวง นิ่งอยู่สิ้น แต่อ้วนเสี้ยวนั้นลุกยืนขึ้นแล้วร้องว่าหองจูเปียนเป็นพระราชบุตรเอก
พระราชบิดายก ราชสมบัติให้หองจูเปียนเสวยราชย์ก็มิได้มีความผิดสิ่งใด
ตัวจะมาถอดเสียแล้วจะยกหองจูเหียบ พระราชบุตรโทขึ้นเสวยราชย์นั้น ตัวจะคิดอ่านเป็นขบถหรือ
ตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นก็โกรธจึงตอบว่า ราชสมบัติทุกวันนี้อยู่ในเงื้อมมือเรา
เราเห็นไม่ชอบจึงจะทำให้ชอบ ถ้าตัวมิฟังจะขืนขัดอยู่ฉะนี้ ตัวจงแลดูกระบี่ที่เราถืออยู่นี้จะคมหรือไม่
อ้วนเสี้ยวจึงตอบว่ากระบี่เราถือมาก็มีอยู่ ถ้าตัวมิฟังจะขืนตั้ง หองจูเหียบขึ้นให้ผิดอย่างธรรมเนียม
ตัวจงดูกระบี่ซึ่งเราถือมานี้เห็นจะคมหรือไม่คมเล่า ตั๋งโต๊ะก็ โกรธถอดกระบี่ออกจะฟันอ้วนเสี้ยว
อ้วนเสี้ยวก็ถอดกระบี่ออกจะสู้ตั๋งโต๊ะ ลิยูเห็นดังนั้นจึงเข้าห้าม
ตั๋งโต๊ะ ไว้ แล้วค่อยกระซิบว่า เราจะคิดการใหญ่อยู่ ครั้นจะฆ่าฟันกันขึ้น
การซึ่งคิดไว้นั้นก็จะเสียไป ตั๋งโต๊ะก็ฟังลิยูห้าม ขุนนางทั้งปวงก็ห้ามอ้วนเสี้ยวไว้
อ้วนเสี้ยวจึงลาขุนนางทั้งปวงแล้วถือกระบี่เดิน ออกมา พาทหารแลพรรพวกยกไปเมืองกิจิ๋ว
ฝ่ายตั๋งโต๊ะจึงว่าแก่อ้วนหงุยผู้เป็นอาอ้วนเสี้ยวว่า อ้วนเสี้ยวทำองอาจขัดขวาง
นี่หากว่าเราคิดถึงท่าน หาไม่เราจะฆ่าเสีย ซึ่งเราคิดการทั้งนี้ท่านยังเห็นชอบผิดประการใด
อ้วนหงุยจึงว่า ซึ่งท่านเป็น ผู้ใหญ่คิดจะกลับแผ่นดินเสียนั้นก็เห็นชอบด้วย
ตั๋งโต๊ะจึงว่าบรรดาขุนนางผู้ใหญ่ ผู้น้อยซึ่งพร้อมกัน ทั้งปวง ผู้ใดจะขัดขวางเราเหมือนอ้วนเสี้ยวนั้นเราจะฆ่าเสียบัดนี้
ขุนนางทั้งปวงกลัวตั๋งโต๊ะสิ้น จึงว่าท่านคิดทำการนี้ข้าพเจ้าเห็นชอบด้วย
ครั้นกินโต๊ะแล้วต่างคนก็ลาไปบ้าน
ฝ่ายตั๋งโต๊ะอยู่ในที่เฝ้าจึงถามเจียวปีกับเหงาเค่งว่า อ้วนเสี้ยวยกไปเมืองกิจิ๋วเห็นจะคิดอ่านประการใด
บ้าง เจียวปีจึงว่า อ้วนเสี้ยวไปครั้งนี้ด้วนโกรธเห็นจะมีความคิดอยู่
อนึ่งแซ่อ้วนนั้นได้เป็นขุนนางต่อ ๆ กันมาถึงสี่ชั่วคน อาณาประชาราษฎรหัวเมืองทั้งปวงก็นับถืออ้วนเสี้ยวเป็นอันมาก
น้ำใจอ้วนเสี้ยว ก็มานะเห็นจะเกลี้ยกล่อมผู้คนตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ตำบลหนึ่ง
เกรงแต่ว่าท่านจะปราบไปมิได้ ขอให้มีหนังสือรับรับสั่งให้ไปตั้งอ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าเมืองตำบลหนึ่ง
เห็นอ้วนเสี้ยวจะปรกติไปต่อท่าน
ฝ่ายเหมาเค่งจึงว่า อันอ้วนเสี้ยวนั้นมีความคิดอยู่ แต่คิดสิ่งใดไม่ตลอด
ซึ่งท่านจะให้มีหนังสือรับสั่งไปตั้งเป็นเจ้าเมืองนั้น เหมือนหนึ่งเอาใจราษฎรไว้ทั้งจะสิ้นความครหานินทาท่านด้วย
ตั๋งโต๊ะเห็นชอบจึงแต่งเป็นหนังสือรับสั่งแล้วให้ทหารถือไปให้อ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าเมืองปุดไฮ
แต่นั้นมาขุนนางทั้งปวงอยู่ในบังคับบัญชาตั๋งโต๊ะสิ้น |
|
|
ตอน 3
หน้า 1 l 2 l 3
| 4 | 5 |
|
|
|
Copyright
2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved. No part of this
article may be reproduced, stored in a retrieval system,
or transmitted in any form, or by any means, electronic, mechanical,
photocopying, recording, or otherwise, without permission. |
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com |
|
|