ตอนที่ 8 อุบายนางงาม(ต่อ)

ลิฉุย กุยกีจึงคิดกันว่า เราทำการเข้ามาถึงเพียงนี้แล้ว จะละไว้นั้นมิได้จำจะคิดเอาราชสมบัติฆ่าพระเจ้าเหี้ยนเต้เสียจึงจะควร เตียวเจ หวนเตียวจึงห้ามว่าซึ่งจะทำจลาจลถึงพระเจ้าเหี้ยนเต้นั้นเราไม่เห็นด้วย หัวเมืองทั้งปวงแลอาณาประชาราษฎรเห็นจะไม่ยอมด้วยเรา ก็จะยกทหารเข้ามาทำการรบพุ่ง เป็นการใหญ่ เราจะได้ความขัดสน ขอให้เข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ทูลขอทำราชการในเมืองหลวงแล้วจึงค่อยคิดอ่านแอบรับสั่งให้หาหัวเมืองเข้ามาจับฆ่าเสีย ให้สิ้นราชสมบัตินั้น จะได้แก่เราโดยง่าย ลิฉุย กุยกีเห็นชอบด้วย จึงพาเตียวเจหวนเตียวเข้าไปถวายบังคม

พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงตรัสถามลิฉุย กุยกีว่า เดิมตัวบอกว่าจะขอเอาตัวอ้องอุ้นแล้วจะยกทหารกลับออกไป บัดนี้ตัวฆ่าอ้องอุ้นเสียแล้วแลยังมิยกกลับไปเอ็งยังอยู่จะประสงค์สิ่งใด ลิฉุย กุยกีจึงทูลว่าแต่ก่อนนั้นข้าพเจ้าได้ทำราชการมีความชอบต่อแผ่นดินมากอยู่ หาผู้ใดพิดทูลพระองค์มิได้ พระองค์จึงมิได้ปูนบำเหน็จข้าพเจ้าให้เป็นขุนนาง บัดนี้ข้าพเจ้าสี่คนจะขอทำราชการเป็นที่ขุนนางอยู่ในเมืองหลวง ถ้าพระองค์โปรดให้ตามปรารถนา ข้าพเจ้าจึงจะยกทหารออกไปจากพระราชวัง พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงตรัสว่า แลตัวทั้งสี่จะพอใจเป็นที่ขุนนางตำแหน่งใดก็ให้ว่ามา

ลิฉุย กุยกี เตียวเจ หวนเตียวปรึกษากันแล้ว จึงเขียนหนังสือถวายพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระเจ้าเหี้ยนเต้ทอดพระเนตรเห็นหนังสือนั้นว่า ลิฉุยเป็นที่กีจงกุ๋น ภาษาไทยว่าเป็นนายทหารใหญ่กองใน แล้วเป็นผู้สำเร็จราชการด้วย กุยกีนั้นเป็นที่ฮอจงกุ๋น ภาษาไทยว่าเป็นนายทหารกองหลัง แล้วว่าที่จางวางขุนนางทั้งปวงด้วย เตียวเจ แลหวนเตียวนั้นเป็นนายทหารซ้ายขวา พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ประทานให้ แลลิฉุย กุยกีครั้นได้รับสั่งแล้วจึงออกมาตั้งอยู่นอกวัง จึงปรึกษากันว่า เมืองฮองหลงนั้นเป็นเมืองหน้าด่านจะไว้ใจแก่ข้าศึกมิได้ จึงให้เตียวเจ หวนเตียวคุมทหารไปรักษาอยู่ แลลิบ้อง อ่องหองซึ่งเปิดประตูรับนั้นเลื่อนที่ขึ้นเป็นขุนนาง แลทหารซึ่งมีสติปัญญาก็ตั้งขึ้นเป็นขุนนางด้วย แล้วให้ทหารไปสืบเสาะเก็บเอากระดูกตั๋งโต๊ะมาให้แต่งการศพอย่างที่มหาอุปราช แล้วให้แห่ออกไปจะฝังศพไว้ตามธรรมเนียม ในขณะทำการเมื่อจะฝังศพนั้น พอเกิดลมพายุพัดหนักฝนตกห่าใหญ่ น้ำท่วมแผ่นดินลึกประมาณสองศอก อัสนีผ่าถูกศพ กระดูกนั้นกระจายไป ครั้นฝนสงบลง ลิฉุยจึงให้เก็บเอากระดูกมาผสมกันเข้า แล้วจะให้ฝังเวลากลางคืนนั้น ซ้ำเกิดพายุฝนตกฟ้าผ่าถูกกระดูกนั้นกระจายไป ลิฉุยจึงให้เก็บเอากระดูกนั้นมาผสมกันเข้าอีกเป็นหลายครั้ง ฝนก็ตกฟ้าคะนองผ่าลงทุกครั้ง จนกระดูกนั้นสาบสูญไปสิ้นมิได้ฝัง ซึ่งเกิดเหตุทั้งนี้เพราะตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้าต่อแผ่นดิน แลลิฉุย กุยกีก็กลับเข้าไปเมืองหลวง ทำการกำเริบหยาบช้าต่างๆ อาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อนแลลิฉุย กุยกีเอาเงินทองไปถึงใจแก่ขันทีซึ่งรักษาพระเจ้าเหี้ยนเต้แล้วสั้งว่า ถ้าได้ยินพระเจ้าเหี้ยนเต้แล้วสั่งว่า ถ้าได้ยินพระเจ้าเหี้ยนเต้ตรัสดีแลร้ายประการใด ก็ให้เอาเนื้อความมาบอก

ขณะนั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้ยังทรงพระเยาว์อยู่ จะตรัสตราสินราชการเมืองก็ผันแปรฟั่นเฟือนไป ราชการแลขุนนางในเมืองหลวงนั้นก็เป็นสิทธิ์อยู่ในบังคับบัญชาลิฉุย กุยกีสิ้น ลิฉุย กุยกีจึงให้หาจูฮีซึ่งเป็นขุนนางนอกราชการนั้นมาตั้งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ที่ปรึกษาราชการ
ฝ่ายม้าเท้งเจ้าเมืองเสเหลียงกับหันซุยเจ้าเมืองเป๊งจิ๋ว ปรึกษากันว่าบัดนี้ลิฉุย กุยกีได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ทำการหยาบช้าเหมือนครั้งตั๋งโต๊ะ จำเราจะคิดอ่านกำจัดเสีย บ้านเมืองทั้งปวงจึงจะเป็นสุข จึงแต่งหนังสือเข้าไปถึงม้าฮูหนึ่ง ตงเซียวหนึ่ง เลาเฉียหนึ่ง สามคนนี้เป็นขุนนางข้าหลวงเดิมของพระเจ้าเหี้ยนเต้ว่า ลิฉุย กุยกีทำการหยาบช้าทุกวันนี้แผ่นดินได้ความเดือนร้อนเหมือนครั้งตั๋งโต๊ะ แลเนื้อความนี้จงกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้ทราบ เราจะยกกองทัพเข้าไปล้างลิฉุย กุยกีเสีย ท่านทั้งสามจงคิดกระทำข้างในเมือง

ม้าฮู ตงเซียว เลาเฉีย ครั้นรู้ในหนังสือนั้นแล้ว จึงกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็มีพระทัยยินดี จึงทรงพระอักษรเป็นใจความว่า ซึ่งม้าเท้งกับหันซุยคิดทั้งนี้เราขอบใจนัก ถ้าสำเร็จราชการแล้วเราจะตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ๋ แล้วส่งให้ทหารม้าเท้ง หันซุยถือกลับมา

  3
ตอน 8    หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6
ตอน 8.1 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8
ตอน 8.2 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6         
ตอน 8.3 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8
ตอน 8.4 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8






Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved. No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system,
or transmitted in any form, or by any means, electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com