ตอนที่ 8.4 เล่าปี่ครองเมืองชีจิ๋ว

ตันเต๋งเห็นเตียวหุยจะทำวุ่นวาย จึงว่าเมื่อเล่าปี่จะยกกองทัพมานั้นได้สั่งไว้ว่าแก่ท่านประการใดบ้าง เตียวหุยจึงตอบว่าเราได้แบ่งให้ท่านว่าราชการข้างพลเรือน ตัวเราบังคับบัญชาฝ่ายทหาร แลโจป้านี้เป็นทหาร ท่านอย่าได้มาล่วงว่าเลย ฝ่ายคนใช้จะคร่าเอาตัวโจป้าไปตี โจป้าจึงอ้อนวอนเตียวหุนตีว่า ข้าพเจ้าขอโทษเสียครั้งหนึ่งเถิด ถึงแม้ไม่เห็นแก่ข้าพเจ้าจงเห็นแก่หน้าบุตรเขยข้าพเจ้าบ้าง เตียวหุยจึงถามว่าผู้ใดเป็นบุตรเขยของตัว โจป้าจึงบอกว่าลิโป้ เตียวหุยได้ยินดังนั้นก็ยิ่งโกรธ จึงว่าเราทำทั้งนี้หวังจะหยอกเล่น ตัวเอาชื่ออ้ายลิโป้มาข่มจะให้เราเกรง เราหาเกรงมันไม่ เราจะให้ตีในบัดนี้จริงๆ ให้กระทบถึงอ้ายลิโป้ผู้เป็นลูกเขย ซึ่งตัวนับถือว่าดี ก็สั่งให้คนใช้เร่งเอาตัวโจป้าลงไปตีได้ประมาณห้าสิบที ขุนนางทั้งปวงก็ชวนกันเข้าขอ เตียวหุยก็ให้งดไว้ โจป้าก็กลับมาบ้าน คิดแค้นเตียวหุยเป็นอันมาก จึงแต่งหนังสือให้คนใช้ถือไปให้ลิโป้ด้วย ณ เมืองเสียวพ่ายเป็นใจความว่า บัดนี้เล่าปี่ยกกองทัพไปตีเมืองลำหยง เตียวหุยเสพย์สุราเมาให้ตีเรา แล้วว่ากล่าวหยาบช้ากระทบมาถึงลิโป้ด้วย ขอให้คุมทหารยกมาตีเมืองชีจิ๋วในเวลากลางคืนวันนี้เห็นจะได้โดยง่าย ด้วยเตียวหุยกำลังเมาสุราอยู่

ลิโป้แจ้งในหนังสือจึงปรึกษากับตันก๋งว่า ตันก๋งจึงว่าซึ่งเตียวหุยทำการว่ากล่าวทั้งนี้ เห็นหยาบช้านัก อันท่านจะอยู่แต่เมืองเสียวพ่ายนี้เห็นไม่สมควรเป็นที่มั่น บัดนี้ได้ทีแล้ว จำจงยกไปตีเมืองชีจิ๋ว จะได้อยู่เป็นสุข จะได้คิดการใหญ่สืบไป ลิโป้เห็นชอบด้วย จึงสั่งให้ตันก๋งกับโกซุ่น ว่าเราจะยกรีบไปก่อน ท่านจงกะเกณฑ์ทหารให้สิ้นเชิงยกตามเราไป แล้วลิโป้ก็ใส่เกราะขึ้นมาคุมทหารประมาณห้าร้อย ยกไปถึงเชิงกำแพงเมืองชีจิ๋วเวลาประมาณสามยามเศษ แล้วร้องบอกแก่ทหารบนเชิงเทินว่าให้เร่งเปิดประตูออก เล่าปี่ให้เรามาแจ้งข้อราชการแก่เตียวหุย พอทหารโจป้ารักษาหน้าที่อยู่ ได้ยินลิโป้ร้องเข้ามาก็เอาเนื้อความไปบอกแก่โจป้า โจป้าก็รีบมาดูบนเชิงเทินเห็น ลิโป้ก็ให้ทหารเปิดประตูเมืองออกรับลิโป้คุมทหารโห่ร้องเข้าไป

ฝ่ายทหารพรรคพวกเตียวหุยเห็นลิโป้คุมทหารเข้ามาได้ในเมืองก็ตกใจจึงเข้าไปปลุกเตียวหุย เตียวหุยตื่นขึ้นยังเมาสุรามึนอยู่ ทหารทั้งปวงบอกว่าลิโป้คุมทหารเข้ามาได้ในเมือง เตียวหุยตกใจจึงขึ้นมาถือทวนออกมาถึงประตูบ้านเห็นทหารลิโป้ล้อมอยู่จึงคิดว่า ตัวกูยังเมาสุรากำลังน้อยอยู่จะสู้กับลิโป้มิได้ จึงทิ้งครอบครัวเล่าปี่เสีย พาเอาทหารซึ่งสนิทนั้นขี่ม้าทั้งสิบแปดคนหนีออกจากประตูเมืองไป

ฝ่ายลิโป้ก็คิดว่าเตียวหุยมีฝีมือมิได้ติดตามไป แต่โจป้านั้นคิดแค้นเตียวหุยอยู่เป็นอันมาก จึงคุมทหารประมาณร้อยหนึ่งตามเตียวหุยไป เตียวหุยเหลียวหลังมาเห็นโจ้ป้า จึงชักม้ากลับมารบด้วยโจป้าสามเพลง โจป้านั้นกำลังน้อยก็ขับม้าถอยหนี เตียวหุยขับม้าตามไปถึงริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง จึงเอาทวนแทงถูกโจป้าตกม้าตาย

ฝ่ายทหารเตียวหุยซึ่งอยู่ในเมืองก็ลอบหนีออกมาได้บ้าง ครั้นเวลาเช้ามาพบเตียวหุย เตียวหุยจึงพากันตามเล่าปี่ไป ณ เมืองลำหยง ฝ่ายลิโป้ครั้นได้เมืองชีจิ๋วจึงเกณฑ์ทหารร้อยหนึ่งไปอยู่รักษาครอบครัวเล่าปี่ให้ผู้ใดทำอันตรายได้

ฝ่ายเตียวหุยครั้นมาถึงเมืองอุไถ จึงเล่าเนื้อความให้เล่าปี่แจ้งทุกประการบรรดาทหารในกองทัพเล่าปี่รู้ดังนั้นก็ตกใจ ทุกข์ถึงครอบครัวของตัว เล่าปี่เห็นทหารทั้งปวงทุกข์ร้อนก็เอาน้ำในใจว่า ธรรมดาเกิดเป็นทหารแล้ว ถ้าจะเสียทีก็อย่าเป็นทุกข์ ถึงจะได้ทีก็อย่ายินดี

กวนอูจึงถามเตียวหุยว่า ตัวเจ้ามาครั้งนี้ได้ครอบครัวของพี่เรามาด้วยหรือ เตียวหุยจึงบอกว่าพี่สะใภ้เราทั้งสองนั้นยังตกอยู่ในเมืองชีจิ๋ว กวนอูได้ยินดังนั้นก็โกรธ จึงกระทืบเท้าลงแล้วว่าเมื่อเล่าปี่จะยกมานั้นตัวรับจะอยู่รักษาเมือง ครั้นเล่าปี่มิให้อยู่ตัวก็สัญญาประการใดยังคิดได้หรือไม่ เตียวหุยได้ยินกวนอูว่าดังนั้นก็นิ่งมิได้ตอบคำ คิดอัปยศแก่ทหารทั้งปวง จึงชักเอากระบี่ออกจะเชือดคอตาย เล่าปี่เห็นก็ตกใจรีบวิ่งเข้ากอดเอาเตียวหุยไว้แล้วชิงเอากระบี่เสียจากมือ แล้วจึงว่าคำโบราณกล่าวไว้ว่า ธรรมดาภรรยาอุปมาเหมือนอย่างเสื้อผ้า ขาดแลหายแล้วก็จะหาได้ พี่น้องเหมือนแขนซ้ายขวา ขาดแล้วยากที่จะต่อได้ แล้วเราก็ได้สาบานไว้ต่อกันว่า ถ้าจะตายก็จะตายด้วยกัน ซึ่งเสียเมืองชีจิ๋วแลภรรยาเราไปทั้งนี้เป็นแต่การภายนอก จะฆ่าตัวเสียนั้นใช้ของทั้งนี้จะคืนมาก็หามิได้ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ก็จะได้คิดอ่านทำการสืบไป จะตายเสียเปล่า ๆ ไม่ควรเลย แล้วเล่าปี่ก็ร้องไห้ กวนอู เตียวหุยเห็นเล่าปี่ร้องไห้ก็ร้องไห้ด้วย

ฝ่ายอ้วนสุดรู้ว่าลิโป้ได้เมืองชีจิ๋วแล้ว จึงให้ทราบถือหนังสือรีบไปถึงลิโป้ว่า ให้ลิโป้ช่วยไปรบเล่าปี่ให้แตกจงได้ เราจะให้ม้าห้าร้อย ข้าวห้าหมื่นถัง ทองเงินหมื่นตำลึง แพรพันพับ ลิโป้แจ้งในหนังสือดังนั้นก็ดีใจ จึงให้โกซุ่นคุมทหารห้าหมื่นยกไปตีกระหนาบหลังเล่าปี่ เล่าปี่จึงปรึกษากวนอู เตียวหุยว่า เรากำลังน้อยเห็นจะสู้เขามิได้ เวลากลางคืนฝนตกหนัก เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ก็ยกทหารออกจากค่ายจะไปเมืองกองเหลง

ฝ่ายโกซุ่นมาถึงรู้ว่าเล่าปี่ยกหนีไปแล้ว จึงไปหากิเหลง ณ ค่าย โกซุ่นจึงว่าแกิเหลงว่า บัดนี้เล่าปี่ก็หนีไปแล้ว ของซึ่งนายท่านจะให้แก่นายเรานั้นเป็นประการใด กิเหลงจึงตอบว่า เนื้อความทั้งนี้เรายังมิได้แจ้ง เรากลับไปเมืองแล้วจะถามอ้วนสุดดูก่อน แล้วกิเหลงก็ยกทัพกลับไปบอกแก่อ้วนสุด โกซุ่นก็กลับไปเมืองชีจิ๋วบอกแก่ลิโป้ว่าเล่าปี่นั้นยกหนีไปแล้ว ข้าพเจ้าพบกิเหลงได้ว่าด้วยสิ่งของ กิเหลงว่าจะไปบอกอ้วนสุดผู้นายก่อน

ลิโป้ได้ยินดังนั้นก็คิดสงสัย พอมีหนังสืออ้วนสุดมาถึงลิโป้ว่าท่านให้โกซุ่นยกไปก็จริงแต่มิได้รบพุ่ง แล้วก็ยังมิได้ตัวเล่าปี่ ถ้าได้เล่าปี่เมื่อใดเราจะให้สิ่งของตามสัญญา ลิโป้เห็นหนังสือนั้นก็โกรธ จึงว่าอ้วนสุดเจรจาหาความจริงไม่ แล้วปรึกษากับทหารทั้งปวงว่า เราจะยกไปรบอ้วนสุด
ตันก๋งจึงว่าบัดนี้อ้วนสุดมาตั้งอยู่เมืองฉิวฉุยเป็นที่สำคัญ ทหารมีฝีมือก็มาก ข้าวปลาอาหารก็บริบูรณ์ ซึ่งท่านจะยกไปบัดนี้เห็นจะเสียทีแก่อ้วนสุดขอให้ท่านคิดอ่านเกลี้ยกล่อมเอาเล่าปี่มาไว้เมืองเสียวพ่ายก่อน เมื่อเราจะยกไปนั้นจะได้อาศัยเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เป็นกำลังเห็นการจะสำเร็จโดยสะดวก ลิโป้เห็นชอบด้วย จึงให้ทหารถือหนังสือไปเชิญเล่าปี่

  7
ตอน 8    หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6
ตอน 8.1 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8
ตอน 8.2 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6         
ตอน 8.3 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8
ตอน 8.4 หน้า 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8






Copyright 2000 - Vichien Shnatepaporn, All Rights Reserved. No part of this article may be reproduced, stored in a retrieval system,
or transmitted in any form, or by any means, electronic, mechanical, photocopying, recording, or otherwise, without permission.
งาน หางาน สมัครงาน ใช้ jobtopgun.com